โควิด-19 หนุนความต้องการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์พุ่ง

  • ไทยสบช่องใช้เอฟทีเอส่งออกตีตลาดสินค้าคู่แข่ง
  • เหตุ 18 ประเทศคู่เจรจาไม่เก็บภาษีนำเข้าจากไทยแล้ว
  • 9 เดือนแรกโกยเงินเข้าประเทศแล้วกว่า 500 ล้านเหรียญฯ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า วิกฤติโควิด-19 ที่ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้สินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงอาหาร ไปทั่วโลกนั้น ทำให้หลายประเทศ เร่งหามาตรการเพื่อบรรเทาและหยุดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ล่าสุด สมาชิกอาเซียน ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจของอาเซียนว่าด้วยการดำเนินการมาตรการที่มิใช่ภาษีสำหรับสินค้าจำเป็นภายใต้แผนปฏิบัติการฮานอยว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตของอาเซียนให้เข้มแข็งในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งจะมีผลให้การค้าสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ต่อสู้โควิด-19 ครอบคลุมยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ระหว่างสมาชิกอาเซียนมีความสะดวกยิ่งขึ้น เพราะอาเซียนจะหลีกเลี่ยงออกมาตรการต่างๆ ที่ไม่จำเป็น และที่อาจเป็นอุปสรรคทางการค้าเป็นเวลา 2 ปี 

ประกอบกับ องค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) ร่วมกับองค์การอนามัยโลก (ดับบลิวเอชโอ) ออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้สมาชิกดับบลิวทีโอ 164 ประเทศ พิจารณาเปิดตลาดสินค้าเครื่องมือแพทย์ รวมทั้งลดการใช้มาตรการที่จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิต โดยปัจจุบัน สมาชิกดับบลิวทีโอ เก็บภาษีนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์เฉลี่ย 3.4% จากปัจจัยดังกล่าว จะทำให้ไทยส่งออกสินค้านี้ไปอาเซียน และประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้มากขึ้น

“จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้แนวโน้มการส่งออกอุปกรณ์ทางการแพทย์ของไทยเพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทย จะเร่งยกระดับพัฒนาสินค้าและปรับกำลังการผลิต เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ขยายการส่งออก โดยปัจจุบันประเทศคู่เอฟทีเอของไทย 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี และเปรู ไม่เก็บภาษีศุลกากรอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่นำเข้าจากไทยทุกรายการแล้ว ส่งผลให้สินค้านี้ของไทย ได้เปรียบด้านราคาเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่ง”

ทั้งนี้ ในช่วง ม.ค.-ก.ย.63 ไทยส่งออกสินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์มูลค่ารวม 551 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 ตลาดส่งออกสำคัญ เช่น ญี่ปุ่น ส่งออกมูลค่า 168 ล้านเหรียญฯ ขยายตัว 8% สหรัฐฯ 122 ล้านเหรียญฯ ขยายตัว 11% สหภาพยุโรป (เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี) 116 ล้านเหรียญฯ ขยายตัว 9% มาเลเซีย 11 ล้านเหรียญฯ ขยายตัว 28% ออสเตรเลีย 5 ล้านเหรียญฯ ขยายตัว 24% เมียนมา 3 ล้านเหรียญฯ ขยายตัว 11% เป็นต้น 

โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เข็มและหลอดฉีดหรือสวน อุปกรณ์และเครื่องใช้ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ และทันตกรรมอื่นๆ เข็มฉีดยาหรือเข็มเย็บแผลทำด้วยโลหะ โดยเข็มฉีดยาและเข็มเย็บแผลที่ทำจากโลหะ ถือเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการผลิตและส่งออกสูงเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับที่ 6 ของโลก ขณะที่ไทยนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ 784 ล้านเหรียญฯ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น อุปกรณ์และเครื่องใช้ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ศัลยกรรม ทันตกรรม และอวัยวะเทียม เป็นต้น