

- สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดมองกว่า2ปีเศรษฐกิจไทยกับสู่ปกติ
- เห็นแน่ดอกเบี้ยนโยบายของไทยต่ำกว่า 0.25 %
- ส่งออกฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป-การลงทุนลุ้นปีหน้า
นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า ธนาคารมองว่าน่าจะใช้เวลาอีกมากกว่า 2 ปีกว่าที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 แม้ว่าบรรยากาศเริ่มดีขึ้นในขณะที่ธุรกิจเริ่มกลับมาเปิดทำการ และรัฐบาลได้ให้เงินช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดมาตั้งแต่เดือนเมษายน โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ปีนี้ หดตัว -13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจะค่อยๆฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง ตลอดทั้งปีมองว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัว -5 % จากปีก่อน
“ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงต้องระมัดระวังแม้ว่าจะเห็นสัญญาณบวกของการฟื้นตัว ในขณะที่ยังมีความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลดลงต่ำกว่า 0.25% เราคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายจะปรับลดลงอีก 0.25% ในไตรมาสที่ 3 ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไปอยู่ที่ 0.25% “
สำหรับภาคส่งออกเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวและน่าจะได้ประโยชน์จากการกลับมาเปิดดำเนินงานของจีน รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในตลาดอื่น ตัวเลขในเดือนมิ.ย.นี้ จะสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศหลังจากที่ประเทศไทยเริ่มเปิดให้กลับมาดำเนินกิจการตามปกติในเดือนพ.ค. แต่การฟื้นตัวน่าจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ส่วนการลงทุนน่าจะฟื้นตัวในปีหน้า (2564) หรือหลังจากนั้น เพราะโควิด-19 น่าจะชะลอการลงทุนและโครงการต่างๆ ของภาครัฐและเอกชนไปอีก ส่งผลให้เศรษฐกิจโตไม่เต็มศักยภาพ นอกจากนี้ ตัวเลขของภาคอุตสาหกรรมอื่นที่รองลงมาสะท้อนให้เห็นการชะลอตัวในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ประเทศไทยจะประกาศมาตรการล็อคดาวน์อย่างเข้มงวด ดังนั้นผลกระทบจากโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทย น่าจะเห็นผลชัดเจนในไตรมาส 2