แอสตรายื่นขออนุมัติใช้ฉุกเฉินยาต้านโควิดกับ FDA สหรัฐฯ

.ยันยา AZD7442 ลดความเสี่ยงอาการรุนแรงได้ถึง 77%

.ส่วนผลวิจัยพบวัคซีนไฟเซอร์ประสิทธิภาพลดหลังฉีดครบ 6 เดือน

.องค์การยุโรปไฟเขียวฉีดไฟเซอร์เข็มกระตุ้นในคนอายุ 18-55 ปี

บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า เผยได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ เพื่อขออนุมัติใช้ยา AZD7442 ในกรณีฉุกเฉิน โดยยาดังกล่าวเป็นการรักษาด้วยแอนติบอดีเพื่อป้องกันอาการรุนแรงของโควิด-19

ทั้งนี้ เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษระบุว่า ยา AZD7442 สามารถลดความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่จะมีอาการรุนแรงลงได้ถึง 77% ในการทดลองระยะสุดท้าย ความคืบหน้าดังกล่า วสะท้อนให้เห็นถึงทางเลือกในการรักษาโรคโควิด-19 ที่นอกเหนือไปจากการใช้วัคซีน

ด้านนักวิจัยจากบริษัทไฟเซอร์และไคเซอร์ เพอร์มาเนนเต้ เผยผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ไฟเซอร์พัฒนาขึ้นร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทค ของเยอรมนี โดยระบุว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อลดลงเหลือเพียง 47% จากเดิม 88% หลังฉีดโดส 2 ไปได้ 6 เดือน

ข้อมูลดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ในวารสารการแพทย์ Lancet แต่เป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้ผ่านการทบทวนโดยผู้วิจัยรายอื่นๆ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทางการสหรัฐฯใช้เพื่อประเมินว่า ควรฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) อนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค เป็นโดสกระตุ้นให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป หลังจากพบว่า วัคซีนของไฟเซอร์ แสดงระดับแอนติบอดีที่สูงขึ้นเมื่อฉีดเป็นโดสกระตุ้น หลังฉีดโดสที่ 2 ครบ 6 เดือนในผู้มีอายุ 18-55 ปี พร้อมแนะนำว่า ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปควรฉีดเข็มระตุ้น หลังรับวัคซีนโดสที่ 2 ครบอย่างน้อย 6 เดือนแล้ว