นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการบรรจุญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ต้องรอเปิดสมัยการประชุมสภาฯก่อน จากนั้นหน้าที่ของประธานสภาฯ จะมีการพิจารณาภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่เสนอเข้ามาคือวันที่เปิดการประชุมสภาฯ เพื่อบรรจุญัตติร่างดังกล่าว ส่วนจะพิจารณาเมื่อไหร่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง สำหรับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติที่ยังค้างอยู่นั้น ก็ต้องรอเปิดการประชุมร่วมรัฐสภา และดูความพร้อมของทุกฝ่าย ทั้ง ส.ส. , ส.ว.และรัฐบาล ที่เป็นผู้เสนอกฎหมาย
เมื่อถามถึงกรอบการพิจารณางบประมาณในวาระหนึ่ง นายชวน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มา แต่ได้ตกลงเบื้องต้นว่าจะเสนอมาให้เร็ว เพื่อให้สภาฯมีเวลาพิจารณาตามกำหนดเวลาที่สำนักงบประมาณกำหนดไว้ โดยครั้งที่ผ่านมาล่าช้า เพราะกว่าจะส่งมามีเวลาตรวจสอบแค่ 7 วัน ทำให้ ส.ส.บางท่านบอกว่าดูไม่ทัน จึงขยายเวลาไป 10 กว่าวัน แต่ครั้งนี้เราขอเวลาพิจารณาตรวจสอบ 9 – 10 วัน โดยทาง ผอ.สำนักงบประมาณ ก็รับปากว่าจะส่งมาตามเวลาที่กำหนด
เมื่อถามว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการพิจารณากฎหมายสำคัญหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนได้คุยกับทางสภาฯ แล้วว่า โควิด-19 มันยังคงอยู่และไม่หายไป จะรอให้มันหายไปแล้วไปทำงานคงไม่ทันการณ์ ดังนั้น ถึงจะมีโรคนี้อยู่งานที่ทำเป็นปกติต้องทำ เช่นวันนี้มีหน่วยงานต่างๆของสภาฯมีประชุมก็ต้องประชุม เพียงแต่ใช้วิธีการประชุมที่ป้องกันตนเอง หรือใช้อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วย เพราะจะรอให้โรคหมดไปแล้วมาทำงานคงไม่ได้ เนื่องจากโรคยังมีอยู่ปกติ แต่จะมากหรือน้อย เราก็คงยังต้องทำงาน เมื่อเปิดการประชุมสภาฯก็ต้องดำเนินการประชุมตามปกติ การประชุมสภาฯ อาจจะไม่มีปัญหา เพราะมีจำนวนคนไม่มากนัก แต่ประชุมร่วมรัฐสภาที่มี ส.ว.ด้วย ทำให้มีคนจำนวนมาก กรณีนี้ก็จะพิจารณาเท่าที่จำเป็น ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการต่างๆ ตนคงไปพูดแทนไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการ แต่เรื่องงบประมาณตนก็ช่วยดูอยู่ว่าอะไรที่จำเป็น และไม่ควรรอแปรญัตติ รวมถึงอะไรที่ไม่จำเป็นเช่นงบประมาณการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ เป็นต้น
