สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สถานการณ์ในประเทศเมียนมา หลังจากกองกำลังทหาร นำโดย พล.อ.อาวุโส อ่อง มิน หล่าย ผบ.สูงสุด ทำการรัฐประหารยึดอำนาจและประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี พร้อมแต่งตั้งรักษาการประธานาธิบดีและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ล่าสุดบรรยากาศภายในประเทศดูเหมือนจะอยู่ในความเงียบสงบบนถนนสายต่างๆ ตั้งแต่คืนวันจันทร์และวันอังคาร
โดยมีกองทหารลาดตระเวนตามเมืองใหญ่ทั้งหมดและมีการบังคับใช้เคอร์ฟิวในเวลากลางคืน ขณะที่ระบบการสื่อสารที่หยุดชะงักในวันจันทร์ได้กลับมาในเช้าวันอังคารซึ่งโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
บนท้องถนนในเมืองหลักอย่างกรุงย่างกุ้ง ผู้คนต่างกล่าวว่าพวกเขารู้สึกว่าการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของพวกเขานั้นสูญเสียไปอย่างหนัก
ขณะที่ในวงการแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลของรัฐบาลมีรายงานว่าพวกเขานัดจะหยุดงานตั้งแต่วันพุธเพื่อผลักดันให้มีการปล่อยตัว “อองซาน ซูจี” ประธานพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ที่ชนะการเลือกตั้ง หลังจากโดยกองกำลังทหารควบคุมตัวไว้พร้อมนักการเมืองอีกหลายคน โดยแพทย์บางคนใช้วิธีติดสัญลักษณ์โบว์ดำในการประท้วงแบบเงียบ ๆ
น.พ.แนง ฮู้ อ่อง วัย 47 ปีวิสัญญีแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง กล่าวกับ BBC ว่า “การรัฐประหารดังกล่าวไม่สามารถยอมรับได้เลยฉันลาออกเพราะไม่สามารถทำงานภายใต้เผด็จการทหารที่ไม่สนใจประเทศและประชาชน นี่คือคำตอบที่ดีที่สุดที่ฉันสามารถให้กับพวกเขาได้ “
ชาวเมียนมาวัย 25 ปีคนหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ กล่าวว่า “การตื่นขึ้นมาเพื่อเรียนรู้ว่าโลกของคุณถูกพลิกคว่ำในชั่วข้ามคืนนี่ไม่ใช่ความรู้สึกใหม่ แต่เป็นความรู้สึกที่ฉันคิดว่าเราเดินหน้าต่อไป และเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่าเราจะต้องรู้สึกอีกครั้ง”
สำหรับเมืองย่างกุ้งที่มีประชากรมากกว่า 5 ล้านคน ได้กลับสู่สภาวะปกติ บนท้องถนนที่เงียบกว่าปกติในเช้าวันอังคารและมีการจัดกองกำลังรักษาความปลอดภัยตรึงตามจุดสำคัญต่างๆ การตื่นตนกแห่ตุนสินค้าได้หยุดลงและการบริการโทรคมนาคมกลับมาใช้ได้ตามปกติภาคการธนาคารเอกชนได้กลับมาให้บริการอีกครั้งหลังจากปิดบริการชั่วคราวในวันจันทร์ หลายๆ คนถอนเงินสดเพื่อเตรียมรับมือกับเวลาข้างหน้าที่ยังไม่มีความแน่นอน ขณะที่ในเมืองเนปิดอว์ซึ่งเป็นเมืองหลวงกองกำลังทหารพร้อมรถถังและรถบรรทุกยังคงล้อมรอบรัฐสภา
จนถึงขณะนี้เป็นการรัฐประหารที่ปราศจากเลือด แต่ผลกระทบอาจรุนแรงในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำท่ามกลางการระบาดของโควิดความวุ่นวายทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นจากการคว่ำบาตรระหว่างประเทศและการลงทุนจากต่างประเทศในขณะนี้ทำให้ผู้คนผิดหวังและโกรธแค้น
รายงานข่าวระบุด้วยว่า ยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเบาะแสที่แน่ชัดของ “อองซาน ซูจี” ว่าขณะนี้อยู่ที่ใดหลังจากเธอถูกควบคุมตัวก่อนรุ่งสางเมื่อวันจันทร์
แต่แหล่งข่าวจากพรรค NLD กล่าวว่าทั้งเธอและประธานาธิบดี “วินมิ่นต์” ถูกกักบริเวณ“เราได้รับแจ้งว่าไม่ต้องกังวล แต่เรากังวลอยู่ มันจะโล่งใจถ้าเราได้เห็นรูปถ่ายของพวกเขาที่บ้าน”
“อองซาน ซูจี” ในอดีตใช้เวลาเกือบ 15 ปีถูกควบคุมตัวระหว่างปี 2532 ถึง 2553 ได้เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนของเธอ “ประท้วงต่อต้านรัฐประหาร” ในจดหมายที่เขียนขึ้นก่อนที่เธอจะถูกควบคุมตัวโดยเตือนว่าการกระทำของกองทัพจะทำให้ประเทศกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการ
