แบ่งที่ดินเป็นรายแปลงกว่า 2.4 ล้านแปลง เพื่อเลี่ยงภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง



  • กรมธนารักษ์ ประสานที่ดินประเมินราคาใหม่ 65 จังหวัด
  • ย่านสีลมมแพงสุดตารางวาละ 1 ล้านบาท
  • ห้วยขวาง ปรับเพิ่ม 21.46% อานิสงส์ รถไฟฟ้าสายสีส้ม

นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์  เปิดเผยว่า จากที่กรมธนารักษ์ ได้ประกาศราคาประเมินที่ดินใหม่ปี 2566-2569 เพื่อใช้อ้างอิงสำหรับการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายกำหนด ประกอบกับตั้งแต่ปี2565 เป็นต้นไป ผู้ถือครองที่ดิน จะต้องเสียภาษีในอัตรา 100% ตามพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 นั้น ทำให้เจ้าของที่ดิน ได้ทำการแบ่งที่ดินเป็นรายแปลง จากเดิมทั่วประเทศมีที่ดิน 31 ล้านแปลง เพิ่มเป็น 33.4 ล้านแปลง เพื่อลดการจ่ายภาษีลง แต่ได้ส่งผลให้การประเมินราคาที่ดินคลาดเคลื่อน ดังนั้นจึงได้ประสานงานกับกรมที่ดิน เพื่อแก้ไขราคาประเมินที่ดินใหม่อีกครั้งในพื้นที่ 65 จังหวัด 

สำหรับการประเมินราคาที่ดินใหม่นั้น ยังคงยึดหลัก การประเมินตามราคาจริงตามภาวะเศรษฐกิจ และต้องชัดเจน โปร่งใส ชี้แจงได้ชัดเจน  ซึ่งจะมีการส่งจดหมายให้เจ้าของที่ดินมาเสียภาษีตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2566 เป็นต้น หากเจ้าของที่ดินไม่เห็นด้วย สามารถยื่นคัดค้าน ได้ภายใน 90 วัน นับจากวันทราบราคาประเมินที่ดินของตัวเอง และ 

แจ้งข้อมูลมายังกรมฯ โดยกรมฯได้จัดตั้งศูนย์รับแก้ไขปัญหาราคาประเมินที่ดิน  พื้นที่ทุกจังหวัด เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับเจ้าของที่ดิน ได้อย่างถูกต้อง”

นายจำเริญ กล่าวว่า สำหรับราคาประเมินที่ดินใหม่ในรอบปี 2566-2569 นั้น ได้ปรับขึ้นจากฐานปี 2559-2562 เฉลี่ยประมาณ 8.93%  โดยราคาที่ดินปรับเพิ่มสูงสุดจะเป็นพื้นที่บริเวณเขตถนนวิทยุ ปรับขึ้น 100% จากราคาประเมิน  500,000  บาทต่อตารางวา(ตรว.) เป็น 1 ล้านบาทต่อตรว. เนื่องจาก เป็นย่านธุรกิจ รองลงมาเป็นพื้นที่บริเวณเขตห้วยขวาง ราคาประเมินปรับขึ้นกว่า 21% เนื่องจาก มีรถไฟฟ้าตัดผ่าน ส่วนพื้นที่บริเวณถนนสีลมนั้น ยังเป็นพื้นที่ที่มีราคาประเมินสูงสุดที่กว่า 1 ล้านบาทต่อตรว. แต่ราคาประเมินไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก

ส่วนทำเลราคาที่ดินในกรุงเทพฯ ที่มีราคาสูงสุดในรอบปี2566-2569 นั้น อันดับ1.  คือ ถนนสีลม (ช่วงพระรามที่ 4 –นราธิวาสราชนครินทร์) ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดมาตั้งแต่รอบปี 2559-2562 ราคาอยู่ที่ 1 ล้านบาทต่อตรว. ส่วนที่ขยับเพิ่มมาใหม่ คือ ถนนเพลินจิต (ช่วงราชดำริ – ทางพิเศษเฉลิมมหานคร) ,ถนนพระรามที่ 1 (ช่วงราชดำริ-พญาไท)  ถนนวิทยุ (ช่วงพระรามที่ 4 – เพลินจิต) และถนนวิทยุ (ช่วงช่วงเพลินจิต – คลองแสนแสบ ) ราคาอยู่ใหม่ที่ 1 ล้านบาทต่อตรว.ช่นกัน รองลงมา คือ ถนนราชดำริ (ช่วงเพลินจิต – คลองแสนแสบ) ราคา 900,000 บาทต่อตรว.  ถนนสาทร (ช่วงพระรามที่ 4 – ถนนสุรศักดิ์,ถนนเจริญราษฎร์) ราคา 800,000 บาทต่อตรว. ถนนสุขุมวิท (ช่วงทางพิเศษเฉลิมมหานคร – แยกอโศกมนตรี) ราคา 750,000 บาทต่อตรว.และ ถนนเยาวราช ราคา 700,000 บาทต่อตรว.

“ทำเลที่มีการเพิ่มขึ้นสูงสุด คือ ถนนวิทยุ (ช่วงพระรามที่ 4 – เพลินจิต) จาก 500,000 บาทต่อตรว. เพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านบาทต่อตรว. หรือ 100% เนื่องจาก เป็นถนนย่านเศรษฐกิจที่กำลังกลับมาบูม ขณะที่ ราคาที่ดินเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงสุดในกทม. คือ เขตห้วยขวาง เพิ่มขึ้น 21.46% เนื่องจากมีรถไฟฟ้าสายสีส้มเพิ่มเข้ามาในพื้นที่”