

- ยอดการใช้พร็อมเพย์ เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านเลขหมาย
- ยอดการสมัครโมบายแบงกิ้งทะลุ 3 ล้านบัญชี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า ในช่วงเดือนมี.ค. ที่โควิด-19 แพร่ระบาดและมีการล็อกดาวน์ในประเทศ ยอดทำธุรกรรมการเงินบนช่องทางดิจิทัลปรับตัวสูงก้าวกระโดด โดยยอดพร้อมเพย์เพิ่มขึ้นถึง 1.2 ล้านหมายเลข หากเทียบกับสิ้นปี 2562 ทำให้ยอดการลงทะเบียนก้าวกระโดดมาอยู่ที่ 51 ล้านหมายเลข
ขณะที่ปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต และโมบายแบงกิ้งเพิ่มขึ้นถึง 69% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และยอดสมัครโมบายแบงกิ้ง หรืออินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง เพิ่มขึ้นสูงถึง 3.1 ล้านบัญชี หากเทียบกับสิ้นปี 2562
ในทางกลับกัน การพึ่งพาการทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านช่องทางเดิมๆ เช่นสาขา ที่เคยเป็นที่พึ่งหลักในอดีต ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน จากข้อมูลของธปท.ล่าสุดจนถึง ส.ค. 2563 พบว่า ธนาคารพาณิชย์มีปรับลดสาขาลงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มุ่งไปสู่ดิจิทัลมากขึ้น
ทั้งนี้หากดูภาพรวมของธนาคารพาณิชย์ 12 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ(BBL), ธนาคารกรุงไทย (KTB), กรุงศรีอยุธยา (BAY), ไทยพาณิชย์ (SCB) กสิกรไทย (KBANK) ทหารไทย (TMB), เกียรตินาคินภัทร (KKP), ซีไอเอ็มบีไทย (CIMBT), ทิสโก้ (TISCO), ยูโอบี (UOB), แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH), ธนชาต (TBANK) เกือบทุกธนาคารมีการปรับลดสาขาลงต่อเนื่อง
โดยตั้งแต่ ม.ค.-ส.ค. 2563 มีการปิดสาขารวมทั้งสิ้น 216 สาขา เฉพาะเดือน มี.ค.-ส.ค. 2563 มีการปิดสูงถึง 201 สาขาแต่หากรวมสาขาที่เปิดเพิ่ม 57 สาขาแล้ว ยอดปิดสาขาโดยรวมจะอยู่ที่ 144 สาขา โดยธนาคารที่ปรับลดสาขามากที่สุด คือ SCB ปิดไปถึง 66 สาขาในรอบ 6 เดือน รองลงมาคือ KTB ที่ 64 สาขา และธนชาต 36 สาขา ขณะที่แบงก์ที่เปิดสาขาเพิ่มแบงก์เดียว คือ TMB ที่เปิดสาขาเพิ่มในรอบ 6 เดือนที่ 57 สาขา
แต่อย่างไรก็ตาม หากดูจำนวนสาขาทั้งหมดของทั้ง 12 ธนาคาร นับตั้งแต่ธ.ค.2562 -ส.ค.2563 พบว่าสาขาโดยรวมอยู่ที่ 5,961 สาขา ลดลง 216 สาขา หากเทียบกับสิ้นปีก่อนที่มีสาขาทั้งสิ้น 6,177 สาขา
อภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า จากโควิด-19 ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าธนาคารอย่างชัดเจน โดยพบว่า มีลูกค้าธนาคาร บนช่องทางดิจิทัลมากขึ้น ทำให้ยอดการทำธุรกรรมบนโมบายแบงกิ้ง หรือ SCB EASY สูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่าของธนาคาร
แต่ขณะเดียวกัน พบว่าการทำธุรกรรมผ่านสาขาของธนาคาร มีความต้องการลดลง ซึ่งเห็นทิศทางต่อเนื่อง มาตั้งแต่2562 ทำให้ที่ผ่านมา ธนาคารมีการทบทวนบทบาทของสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยการปรับลดสาขาลง บางจุดมีการควบรวมสาขา เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปพึ่งพาดิจิทัลมากขึ้น
“ทิศทางสาขาลดลงแน่นอน ซึ่งเป็นภาพเดียวกันทุกแบงก์ เพราะวันนี้ เราเห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคหันไปพึ่งพาดิจิทัลมากขึ้น ทำให้บางจุดสาขามีความจำเป็นน้อยลง และสาขาท่ี่เราปิดส่วนใหญ่ เป็นสาขาในกรุงเทพ ที่เป็นสาขานอกห้างซึ่งหลังจากนี้ธนาคารก็จะติดตามการทำธุรกรรมผ่านสาขาต่อเนื่อง เพื่อปรับให้เหมาะสมกับความต้องการในอนาคตต่อเนื่องด้วย”