เอ็นริช ลุยเปิด “อาร์ค สุขุมวิท 39” เผยมหาเศรษฐีไทยไม่มีกระทบ พร้อมควักเงินซื้อบ้านซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่

  • ชูบ้านสุดหรูระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ราคา 65-133 ล้านบาท บนทำเลใจกลางสุขุมวิท
  • เศรษฐีเป๋าหนักจองให้ไว มีจำนวนสุดเอ็กคลูซีฟเพียง 12 หลัง พื้นที่ใช้สอยขนาด 535-829 ตร.ม.
  • ด้านซีบีอาร์อี ชี้ตลาดบ้านกลุ่มลักซ์ชัวรี่ขึ้นไปช่วงโควิดโตสวนกระแส เผยยอดขาย Q1 ปีนี้ พุ่งถึง 78%

นางสาวสุพิชา ณัฐสุวรรณพล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัทเอ็นริช เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มการเติบโตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าลักซ์ชัวรี่ขึ้นไปที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง โดยลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีความต้องการซื้อบ้านอย่างต่อเนื่อง และเป็นกลุ่มที่มาแรงในปีนี้ ซึ่งการพัฒนาโครงการต้องตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในเรื่องของทำเล คุณภาพ งานดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้งาน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจากประสบการณ์ที่ทางเอ็นริชได้ร่วมทุนกับ บริษัท ไซบุแก๊ส โฮลดิ้ง จำกัด (Saibu Gas Holdings Co.,Ltd.) ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก่อตั้งมานานกว่า 90 ปี ที่เลือกลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับคุณภาพทั่วโลก พัฒนาโครงการ เดอะมาร์ค เอ็กซ์ควิซิท ราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง สามารถปิดโครงการได้ในเวลาอันรวดเร็วแม้เปิดตัวในช่วงโควิด-19 ก็ตาม เป็นผลมาจากการออกแบบพื้นที่ใช้สอยในบ้านตอบโจทย์กับการใช้งานจริง ควบคู่กับการการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่สวยงาม รวมถึงยังผสานแนวคิดการจัดบ้านแบบคอนมาริ ในสไตล์ มาริเอะคอนโดะ ร่วมกับตัวแทนที่ปรึกษาระดับมาสเตอร์อีกด้วย

นางสาวสุพิชา กล่าวต่อว่า จากความสำเร็จในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ที่ผ่านมา และข้อมูลอินไซต์ของกลุ่มลูกค้าลักซ์ชัวรี่ บริษัทฯ จึงเดินหน้าร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทไซบุแก๊ส ลุยพัฒนา โครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39 (ARCH Sukhumvit 39) บ้านระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า ที่มองหาที่อยู่อาศัยในทำเลซีบีดี ซึ่งโครงการตั้งอยู่บนทำเลที่ดีบนถนนสุขุมวิท และปัจจุบันหาที่ดินมาพัฒนาโครงการได้ยากมาก สวนทางกับความต้องการอยู่อาศัยที่มีสูง เนื่องจากเป็นทำเลมีศักยภาพ มีความสมบูรณ์ของระบบสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก และเป็นทำเลใจกลางธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ

สำหรับโครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39  บริษัทฯ พัฒนาโครงการ โดยการออกแบบ ด้วยดีไซน์ Modern Classic เน้นการออกแบบรูปทรง ARCH ทำให้โครงการโดดเด่น พื้นที่ภายในที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างออกไป อีกทั้งยังเหมือนเป็นพื้นที่ที่ถูกโอบล้อม แต่มีความเป็นส่วนตัวไม่ทึบตัน เรียบหรูดูทันสมัย เน้นเพิ่มพื้นที่สีเขียวในทุกชั้น ทำให้ทุกห้องสามารถได้รับแสงธรรมชาติ และมีมุมมองภายในห้องที่ดี ตอบโจทย์การใช้งาน และไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน บนที่ดิน 2 ไร่ จำนวน 12 หลัง พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ 535-829 ตารางเมตร (ตร.ม.) ขนาด 4-5 ห้องนอน และที่จอดรถ 4-6 คัน พร้อมลิฟต์ส่วนตัว ในราคาเริ่มต้น 65 ล้านบาท โดยมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8-9 ก.ค. 2566 นี้ 

นอกจากนี้ โครงการยังมีความสงบ เพราะเป็นซอยที่มีแต่ที่พักอาศัย จากที่ตั้งโครงการ สามารถเดินทางไปทองหล่อและสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ เพียง 1.5 กม. และยังสามารถเชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้ทั้งถนนสุขุมวิท เพชรบุรี และพระราม 9 แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้ศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งระดับโลก “The EM District” รถไฟฟ้า โรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาลชั้นนำ

“ในการพัฒนาทุกโครงการ บริษัทฯ ยังคงยึดหลักแนวคิด Guiding You to Practical Living คือ ให้ผู้อยู่อาศัย ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้จริงในโครงการของเรา สำหรับโครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39 ก็เช่นกัน ยังเน้นตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่อยู่ในย่านใจกลางเมืองสุขุมวิท นอกจากความสะดวกสบายเรื่องการเดินทาง ซึ่งเป็นความกังวลของคนในย่านนี้แล้ว ยังใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อได้เข้าบ้าน ก็ได้พักผ่อนในบ้านที่มีความเป็นส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมด้วยดีไซน์อันมีเอกลักษณ์ ทั้งในแง่พื้นที่ใช้สอยที่เหมาะสม และความสวยงามซึ่งเป็นสิ่งที่คนย่านนี้ให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน” นางสาวสุพิชา กล่าว

นายอนวัช ฉัตรศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ กลุ่มบริษัทเอ็นริช กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้โครงการของกลุ่มบริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดี เป็นเพราะมีข้อมูลอินไซต์ของกลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี่ จากการสำรวจตลาด พบว่ากลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี่จะมีความต้องการใน 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.ทำเล ต้องตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 

2.ดีไซน์ พื้นที่ใช้สอยต้องมีขนาดที่เหมาะสม และมีความสวยงาม การออกแบบจากดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับ การดีไซน์นั้นยังต้องแสดงความเป็นตัวตนของลูกค้าได้อย่างชัดเจน รวมถึงการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และการก่อสร้างที่มีคุณภาพสูงด้วย 3.มีความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย เพราะลูกค้าต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่เมื่อกลับมาที่บ้าน

ด้านนายโยชินาริ นุมาโนะ และ มร.เคสุเกะ โคจิ ตัวแทนฝ่ายบริหาร บริษัท ไซบุแก๊ส โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า จากที่ได้ร่วมงานนกับกลุ่มบริษัท เอ็นริชที่ผ่านมา ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าเอ็นริชเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเข้าใจอินไซต์และความต้องการในการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตของลูกค้าเป็นอย่างดี อีกทั้งใส่ใจในการพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ตรงนั้น ดูได้จากผลตอบรับเป็นอย่างดีในโครงการที่ผ่านมา แม้ว่าธุรกิจอสังหาฯ ในไทยมีการแข่งขันสูงแต่มั่นใจว่ากลุ่มบริษัท เอ็นริช จะผลักดันให้ตลาดอสังหาฯ ในไทยเติบโตต่อไปได้ และเหตุผลที่ทางกลุ่มไซบุแก๊สเลือกที่จะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจมาที่อาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทยนั้น เพราะมีการพัฒนาการทางเศรษฐกิจอย่างโดดเด่น มีการเติบโตด้านธุรกิจอสังหาฯ ที่มั่นคง

นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับตลาดบ้านกลุ่มลักซ์ชัวรี่ขึ้นไปในกรุงเทพฯชั้นในและชั้นนอก พบว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเปิดตัวโครงการบ้านใหม่ในกลุ่มลักซ์ชัวรีขึ้นไปในช่วงก่อนโควิด-19 (ปี 60-62) พบว่ามีการเปิดตัวเฉลี่ย 260 หลังต่อปี ในขณะที่ช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 (ปี 63-65) ตลาดบ้านระดับลักซ์ชัวรี่ขึ้นไปกลับเติบโตสวนกระแสโดยมีการเปิดตัวเฉลี่ย 645 หลังต่อปี หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 132%

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในด้านความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ พบว่ามีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ต้องการขยายพื้นที่อยู่อาศัย โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายบ้านระดับลักซ์ชัวรี่ขึ้นไปโดยรวมในตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ พุ่งสูงถึง 78% ในขณะที่ยอดขายโดยรวมในปี 2565 อยู่ที่ 68%

สำหรับทำเลที่มียอดขายสูงที่สุด คือ ทำเลใจกลางเมือง มียอดขายสูงถึง 88% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับทำเลอื่น ๆ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าซัพพลายตลาดบ้านในทำเลนี้มีน้อยมาก เพราะที่ดินมีจำกัด

นางสาวอาทิตยา กล่าวด้วยว่า ความต้องการบ้านใจกลางเมืองยังเป็นความต้องการที่มีอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยผลกระทบจากโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดความต้องการในตลาดและส่งผลให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมาสู่รูปแบบบ้านเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากเปรียบเทียบโครงการคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในทำเลสุขุมวิทตอนกลางตั้งแต่ย่านอโศกไปจนถึงทองหล่อ จะพบว่ายูนิตขนาดใหญ่ 3 ห้องนอนขึ้นไปจนถึงเพนท์เฮ้าส์ ลูกค้าจะได้พื้นที่ใช้สอยประมาณ 200-350 ตร.ม. ที่จอดรถ 3-4 คัน ซึ่งราคาจะอยู่ที่ระดับ 60-130 ล้านบาท 

ในขณะที่โครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39 ซึ่งถือว่าเป็นโครงการบ้านที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอย่างแท้จริง ลูกค้าจะได้พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าและตอบโจทย์ทั้งในแง่ของฟังก์ชันที่มากขึ้น รวมไปถึงที่จอดรถที่เตรียมไว้ให้อย่างเพียงพอ พร้อมกรรมสิทธิ์สมบูรณ์ในที่ดิน ทำให้โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามอง