

- หวังปั้นสินค้าเกษตร-เอสเอ็มอี เป็นผู้ส่งออก
- ตั้งเป้าผู้ส่งออกรุ่นใหม่ให้ถึง 1 แสนรายใน 4 ปี
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า ภายในเดือนก.ค.-ส.ค.นี้ ธนาคารเตรียมเปิดตัวโครงการไทยพาวิลเลียน นำผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชนในประเทศ ไปทดลองส่งออกสินค้าผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์ระดับโลก โดยธนาคารจะเข้าไปเช่าพื้นที่ในแพลทฟอร์มสินค้าออนไลน์ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่มีความพร้อมทดลองนำสินค้าไปวางขายและเจรจากับผู้นำเข้าจากต่างประเทศได้ฟรี โดยสินค้ากลุ่มแรกจะเป็นสินค้าโอทอป ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาตรฐานและได้รับความนิยมในประเทศมานาน จึงต้องการสนับสนุนให้ส่งออกไปต่างประเทศให้ได้สำเร็จ
“เบื้องต้นธนาคารได้ติดต่อกับแพลตฟอร์มชื่อดัง เช่น อาลีบาบา อาเมซอน เพื่อขอไปเช่าพื้นที่ภายในแพลตฟอร์ม สำหรับเปิดโซนจำหน่ายสินค้าไทยโดยตรง เพื่อให้เอสเอ็มอีไทยนำสินค้าไปวางขายและกลายเป็นผู้ส่งออกได้ เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการไทยที่เป็นผู้ส่งออกยังมีไม่เยอะ ประมาณ 30,000 กว่าราย จากผู้ประกอบการทั้งหมดทั่วประเทศ 3 ล้านราย หรือคิดเป็น 1% ซึ่งน้อยกว่าอีกหลายประเทศ ดังนั้นธนาคารจึงวางเป้าหมายที่จะเร่งสร้างผู้ส่งออกหน้าใหม่ให้เพิ่มขึ้น ภายใน 4 ปี จะมีผู้ส่งออกได้ถึง 100,000 ราย”
นายรักษ์กล่าวว่า ช่วงแรกธนาคารจะร่วมมือกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ในการเสาะหานำผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน ธุรกิจหน้าใหม่ ทั้งกลุ่มสินค้าเกษตร สินค้าแปรรูป หรือภาคอุตสาหกรรมที่มีความพร้อมนำสินค้าออกมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ก่อน และพัฒนาก้าวไปเป็นผู้ส่งออกเต็มตัวในอนาคต และ นอกจากการเปิดพื้นที่ไทยพาวิลเลียนแล้ว ธนาคารจะเข้าไปช่วยเป็นพี่เลี้ยง สอนวิธีการทำตลาดออนไลน์ การโปรโมตสินค้า การเขียนคำอธิบายภาษาต่างประเทศ การเจรจาการค้า หรือวิธีการส่งออกให้ด้วย โดยธนาคารจะเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ในช่วงแรก
ส่วนแนวโน้มการส่งออกปีนี้ธนาคารคาดจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจาก ฐานมูลค่าส่งออกปี 63 ที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี รวมถึงเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ซึ่งล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะขยายตัวได้ 6% สูงสุดตั้งแต่เก็บสถิติมา ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อสินค้าส่งออกไทย อาทิ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง น้ำมันสำเร็จรูป ยางพารา ส่วนปัจจัยเสี่ยงต้องจับตาดูการระบาดของโควิดระลอกใหม่ในหลายประเทศ อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวน และปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ รวมถึงภาวะหนี้ของประเทศคู่ค้า