เอาฤกษ์เอาชัย เช้าวันนี้ ทีมรัฐมนตรีใหม่เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อศักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนประชุม ครม. “ประยุทธ์ 2/2” นัดแรก



  • “อนุชา” มาคนแรก ตั้งแต่ 6 โมงเช้า
  • ตามติดมาด้วย “ดอน – สุพัฒนพงษ์”
  • ลั่นขอทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ถือประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก
  • พร้อมเดินหน้าหามาตรการฟื้นฟูประเทศ หลังวิกฤติโควิด-19

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ (13 ..) รัฐมนตรีใหม่เริ่มทยอยเข้าเดินทางเข้าทำเนียบ เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ได้แก่ องค์พระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตายาย เพื่อความเป็นสิริมงคล  ก่อนเริ่มการประชุมคณะรัฐมนตรี “ประยุทธ์ 2/2” นัดแรก

ทั้งนี้นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ได้เดินทางมาถึงเป็นคนแรก ในช่วงเวลา 06.14 โดยเปิดเผยว่า รู้สึกดีใจและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยังไม่ได้มอบหมายงาน ว่าจะให้กำกับดูแลในส่วนใด  แต่ถ้ารัฐมนตรีคนเก่ายังมีงานที่ค้างอยู่ และต้องการให้สานต่อ เพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติ  ก็ยินดีที่จะรับไปปฏิบัติให้สำเร็จลุล่วง

โดยงานกำกับดูแลหน่วยงานด้านสื่อของรัฐ ต้องรอนายกรัฐมนตรีมอบหมายงานให้ชัดเจนก่อน จึงจะมีความชัดเจนในรายละเอียดของงานหน่วยงานต่างๆ ผมถือคติในการทำงาน ว่าจะตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และประเทศชาติ”  นายอนุชา กล่าว

ในเวลาต่อมา นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ ได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพิ่มมาอีกตำแหน่ง โดยจะใช้ห้องทำงานของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่อยู่บริเวณชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เป็นห้องทำงาน

ตามมาด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เดินทางใาถึงทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ภาวะการตกงานในช่วงสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำขณะนี้ ทุกคนย่อมคาดหวังมาตรการใหม่ๆ ที่จะมารองรับ การทำงานนับจากนี้ จะเป็นความท้าทาย โดยเฉพาะงานระบบราชการ ที่จะต้องปรับและเรียนรู้เพราะมาจากภาคเอกชน แต่ก็จะพยายามทำงานอย่างเต็มที่

ที่ผมตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งนี้ เพราะเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น และส่วนตัวมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า ถ้ามีโอกาสที่จะช่วยประเทศชาติได้ก็ยินดี ทุกคนทราบดีว่า ผมเกษียณอายุ และได้พักผ่อนมา 1 ปีแล้ว และมีโอกาสได้รับฟังปัญหามาโดยตลอด ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ เป็นสถานการณ์พิเศษ มีการระบาดของโควิด-19 ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับประเทศไทยเพียงเท่านั้น นี่คือสิ่งไม่แน่นอน จึงเป็นความท้าทายที่จะต้องเข้ามาทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และมีส่วนร่วมในการทำงานกับครม.ชุดนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

นายสุพัฒนพงษ์  กล่าวด้วยว่า ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยบริหารจัดการบ้านเมืองเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี ขณะที่ต่างประเทศต้องรับมือการระบาดอย่างหนัก ดังนั้น เวลานี้ไทยถือว่ารับศึกด้านเดียว ถือเป็นความสามารถของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา ในการแก้ไขปัญหาได้ดี ส่งผลให้นับจากนี้ต้องฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจให้เดินหน้า ทุกคนจะต้องมาร่วมรวมใจ ไทยสร้างชาติ 

ทั้งนี้เมื่อถามว่า สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ จะส่งผลต่อการทำงานด้านเศรษฐกิจหรือไม่นั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่าส่วนตัวเชื่อมั่นว่า วันนี้ต้องมาร่วมมือกันให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และทำงานต่อไป และเลี่ยงที่จะตอบข้อถาม กรณีความวุ่นวายภายในพรรคพลังประชารัฐ