เอกชน​ เตือนรัฐ-ผู้ส่งออกไทยรับมือ อินเดียแย่งตลาดข้าว

“อีคอนไทย” เตือนรัฐ-ผู้ส่งออกรับมือ อินเดียแย่งตลาดข้าว ในช่วงที่ข้าวไทยราคาร่วง​ ส่วนจีนไม่ง้อปลูกยางพาราเอง

  • ช่วงนี้ราคาข้าวไทยร่วง​
  • ส่วนจีนไม่ง้อปลูกยางพาราเอง

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งต่อเศรษฐกิจไทย ว่า เรื่องของภัยแล้งในปี 2566 ยังไม่น่ากังวล

แต่ตอนนี้ในหลายจังหวัดเริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำแล้ว เพราะน้ำในเขื่อนหลักยังไม่เต็มเขื่อน เนื่องจากฝนยังตกใต้เขื่อนเป็นส่วนมาก โดยเฉพาะในโซนภาคอีสาน จึงประเมินว่าภัยแล้งของจริงจะเกิดขึ้นในปี 2567 ที่ต้องจับตาว่าปรากฎการณ์เอลนิโญจะทวีความรุนแรงกว่านี้หรือไม่ เพราะน้ำต้นทุนที่จะสำรองไว้ใช้ในหน้าแล้ง ปี 2566/67 ยังมีปริมาณไม่มาก

นายธนิต กล่าวอีกว่า ผลผลิตทางภาคเกษตรปัจจุบันยังไม่ดี เนื่องจากเดิมอินเดียจะไม่มีการส่งออกข้าวแต่กลับมาทำการส่งออกผลิตข้าวไปยังต่างประเทศแล้ว จึงทำให้เดิมที่ต้องแข่งขันเรื่องราคาข้าวกับเวียดนามอยู่แล้ว ไทยต้องมีคู่แข่งทางการค้าเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตและราคาข้าวของไทยยังทรงตัวอยู่ในระดับที่ไม่ดี

ขณะที่ภัยแล้งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบที่จะเข้ามาฉุดจีดีพีของประเทศ โดยเฉพาะจีดีพีภาคเกษตร เดิมไม่ได้เติบโตในระดับที่ดีอยู่แล้ว ทำให้แย่ลงไปอีก แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบกับการบริโภคในประเทศ แต่จะส่งผลต่อเรื่องการส่งออกสินค้าเกษตรที่อาจมีปริมาณลดลงในปี 2567 โดยเฉพาะข้าว ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลจะต้องเตรียมแผนรับมือล่วงหน้าไว้ด้วย เพื่อไม่ให้เกษตรกร และชาวนาได้รับผลกระทบมากจนเกินไป

นอกจากนี้ ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่ ในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้เห็นข้อมูลของราคายางพารา และปริมาณที่ทรงตัว นาทีทองไม่มีอีกแล้ว เนื่องจากปัจจุบันจีนเริ่มปลูกยางพาราใช้ในประเทศแล้ว โดยในพื้นที่ของประเทศลาวตอนเหนือมีการปลูก เพื่อนำมาใช้งานในจีน จึงส่งผลให้การส่งออกยางพารามีปริมาณที่ลดลงต่อเนื่อง ดังนั้น สินค้าเกษตรที่ยังพอไปได้ คือมันสำปะหลัง และข้าว ที่จะกลายมาเป็นสินค้าชูโรงแทนการส่งออกยางพาราต่อไป