เอกชนเตรียมชงรัฐบาลใหม่ดัน “ท่องเที่ยว”เป็นวาระแห่งชาติ

  • เพื่อจัดการปัญหาของภาคการท่องเที่ยว
  • ไตรมาส 4 ปี 2566 นักท่องเที่ยวจะทะลักเข้ามา
  • อยากให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ สทท. เปิดเผยในงานเสวานาเรื่อง “ข้อคิดเห็นจากภาคธุรกิจ ต่อรัฐบาล ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและบริการอย่างไรให้ยั่งยืน” ในโอกาสครบรอบ 60 ปี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวอยากเห็นรัฐบาลใหม่มีการผลักดันให้การท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะการนำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปไว้ในการดูแลของพรรคแกนนำ จัดตั้งรัฐบาล เพื่อจัดการกับปัญหาของภาคการท่องเที่ยวได้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ เพราะปัจจุบันความต้องการมาเที่ยวไทยสูงมาก แต่ติดขัดเรื่องเที่ยวบิน ไม่พอ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาคอขวดเรื่องการขอวีซ่า แท็กซี่โกงมิเตอร์ หากสามารถแก้ไขเรื่องใกล้ตัวเหล่านี้ได้ จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้นักท่องเที่ยว และเชื่อว่า ภาคท่องเที่ยวไทยจะเติบโตแบบทะยานแน่นอน โดยสิ่งที่ภาคการท่องเที่ยวกลัวที่สุด คือ ความไม่มั่นใจของนักท่องเที่ยว หากมีการประท้วงลงถนน ประกันก็ไม่จ่ายให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสเลือกไปที่อื่นแทน งบประมาณที่จะลงมาสนับสนุนก็หายไป ยิ่งตั้งรัฐบาลช้ายิ่งเกิดปัญหา

“หากเป็นไปได้ช่วงไตรมาส 4 ปี 2566 นักท่องเที่ยวจะทะลักเข้ามาท่องเที่ยวในไทย อย่างแน่นอน เมื่อจัดตั้งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อย อยากให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของการ ท่องเที่ยว เพื่อดึงนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ” นายชำนาญ กล่าว

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี ม.หอการค้าไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังชะลอตัว แต่ฟื้นตัว เล็กๆ กลับกันในปี 2567 จะเติบโตได้มากขึ้นแน่นอน ซึ่งจีนและอินเดียเป็นประเทศที่เศรษฐกิจฟื้นตัวมากที่สุด และยังเป็นมีท่องเที่ยวที่เข้ามาไทยเป็นอันดับ 1 และ 2 ส่วนครึ่งปีแรก 2566 มีนักท่องเที่ยว 12 ล้านคน นักท่องเที่ยวจีนยังมาน้อยมากๆ ครึ่งปีหลัง 2566 มีสัญญาณเข้ามาเพิ่มแน่ รัฐบาลจึงต้องทำนโยบายให้ชัด รวมถึงป้องกันไม่เกิดความวุ่นวายนอกสภา เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 20-30 ล้านคน ตามเป้าหมายแน่นอน