“เศรษฐา” ชวนเปลี่ยนมุมมอง”ปางช้าง” ไม่ใช่ที่ทารุณสัตว์

  • แนะเข้ามาเรียนรู้วิถีชีวิตของช้างอย่างใกล้ชิด
  • พร้อมช่วยสนับสนุนและดูแลช้าง

นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย​ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า​ สืบเนื่องจากการลงพื้นที่และได้พูดคุยกับสมาคมสหพันธุ์ช้างไทย สิ่งที่หลายคนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับปางช้างในไทยคือเรื่องของภาพลักษณ์ ซึ่งหลายคนยังคงมองว่าปางช้างเป็นกิจกรรมที่ทารุณและมีการฝึกช้างเพื่อใช้แรงงานหรือแสดงโชว์อย่างไม่เหมาะสม ในขณะที่จริง ๆ แล้วงานของปางช้างคือการเป็นเสมือนบ้าน สถานที่ดูแล รวมถึงศูนย์วิจัยและสถานที่เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับช้างซึ่งเป็นสัตว์ที่สำคัญของไทย นอกจากนี้ยังเป็นที่พึ่งพิงของช้างที่ไม่สามารถกลับไปอาศัยอยู่ในป่าได้ให้สามารถมีชีวิตที่ปลอดภัย มีอาหารกิน และมีคนดูแล

ช้างที่ไม่สามารถกลับไปอาศัยอยู่ในป่าที่ว่านี้ หมายถึงตั้งแต่อดีตช้างที่ถูกปลดระวาง เป็นช้างซึ่งเคยถูกนำตัวออกมาใช้แรงงานริมถนน ไปจนถึงช้างในพื้นที่ป่าซึ่งขาดแคลนอาหาร จึงจำเป็นต้องบุกรุกเข้าไปในเรือกสวนไร่นาหรือหมู่บ้านของประชาชนจนถูกทำร้าย และได้รับบาดเจ็บเข้ามารับการดูแล แน่นอนครับว่าการเพิ่มพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์เหมาะเป็นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของช้างย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่การดูแลช้างที่ได้รับผลกระทบอยู่ในปัจจุบันก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน

การทำกิจกรรมร่วมกับช้างที่ปางช้างแม่ริมปัจจุบันมีชื่อเรียกว่า “Elephant Care Program” หรือ “โปรแกรมดูแลช้าง” ซึ่งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสและเรียนรู้การดูแลช้างจากควาญช้างโดยตรง ไม่ว่าจะผ่านการเรียนรู้วิธีการเข้าใกล้ การสื่อสาร ความเข้าใจเรื่องอาหารและสมุนไพรที่ดีต่อช้าง ไปจนถึงการร่วมกิจกรรมการดูแลสุขภาพเท้าช้าง (Elephant Foot Care) การอาบน้ำและขัดตัวให้ช้างในคลอง การเดินออกกำลังกายร่วมกับช้าง รวมถึงการให้อาหารช้าง ซึ่งนอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนนอกได้เข้ามาเรียนรู้วิถีชีวิตของช้างอย่างใกล้ชิดยังเป็นการช่วยสนับสนุนและดูแลช้างที่อาศัยอยู่ที่นี่อีกด้วย

โดยนอกจากที่ปางช้างแม่ริม ปางช้างอีกหลายๆแห่งในไทยเองก็เริ่มมีการปรับกิจกรรมให้มีความสร้างสรรค์มากขึ้นเช่นกัน ภาพลักษณ์ในแง่มุมนี้จึงเป็นสิ่งที่ควรถูกสื่อสารออกไปให้กว้างขวางยิ่งขึ้นอย่างจริงจัง ทั้งเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์ในภาพรวม และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวที่จะก่อให้เกิดรายได้เพื่อให้ปางช้างเหล่านี้สามารถรักษากิจการและยังคงสามารถดูแลช้างไทยได้ต่อไปในอนาคต