“เศรษฐา” เผยโจทย์ใหญ่ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 คือ เข้าถึงหัวใจคนรุ่นใหม่



“เศรษฐา” เผยโจทย์ใหญ่ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 คือ เข้าถึงหัวใจคนรุ่นใหม่ Generation ที่เกิดมาพร้อมเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดครับ

  • ประชาธิปไตยต้องเป็นใหญ่
  • คนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน
  • เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ทำตาม “ความหวัง”

วันที่ 7 พ.ค. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย โพสต์ทวิตเตอร์ Srettha Thavisin ระบุว่า ประเทศไทยจะต้องชนะ ประชาธิปไตยต้องเป็นใหญ่

โจทย์ที่ผมอยากเห็นประเทศไทยเป็นสถานที่ที่คนอยากอยู่ อยากทำงาน อยากใช้ชีวิต ไม่จำเป็นต้องกระจุกอยู่แต่ในเมืองใหญ่ คนธรรมดา มีชีวิตที่ดี มีความภาคภูมิใจ มีศักดิ์ศรี มีกฏหมายที่บังคับใช้อย่างเป็นธรรม คนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน

เมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมาในเวทีที่ Siam Paragon ที่ได้พบกับคนหลากหลายกลุ่ม เจอตั้งแต่รุ่นใหม่จนรุ่นเก๋า(ที่ไม่เก่า) คนที่เริ่มทำงาน มีไฟแรงกล้า เป็นกลุ่มที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลต่อทิศทางของประเทศในอนาคต

คนเหล่านี้เป็น Generation ที่เกิดมาพร้อมเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดครับ เข้าถึงแหล่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แทบจะไร้ขีดจำกัดด้วย Search Engine, Social Media, หรือแม้กระทั่ง ChatGPT เทียบกับสมัยของผมที่ต้องรอฟังข่าวหรืออ่านจากหนังสือพิมพ์

เทคโนโลยีไม่ได้นำมาแต่ความสะดวกสบาย แต่เป็นความกดดันที่มากขึ้นสำหรับคนยุคใหม่ด้วย คนรุ่นใหม่ถูกคาดหวังว่าจะต้องพร้อมที่จะเรียนรู้ ต้องฝันไกล ต้องทำให้ครอบครัวอยู่สบาย ต้องมีกินมีใช้ ต้องเก่งกว่าคนรุ่นพ่อแม่ ต้องอะไรหลายๆอย่างอีกมากมาย ความ “คาดหวัง” จากสังคมอาจจะไม่ใช่ “ความหวัง” ของคนเหล่านี้ ถ้าผู้ใหญ่ลองสวมหมวกของคนรุ่นใหม่ดู ผมว่าทุกท่านคงรู้สึกเห็นใจ การคืนและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ทำตาม “ความหวัง” ได้ เป็นโจทย์ใหญ่ของผมในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30