“เลบานอน”ถึงทางตัน! ว่าที่นายกรัฐมนตรีลาออก



  • หลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่นาน 9 เดือนแต่ไม่สำเร็จ
  • ขณะที่ประธานาธิบดีลั่นไม่จริงใจจัดตั้งให้ได้
  • ทำชาวบ้านลุกฮือประท้วง-ค่าเงินดิ่ง-เศรษฐกิจทรุดหนัก

ว่าที่นายกรัฐมนตรีเลบานอน ประกาศลาออก หลังจากพยายามมาเกือบ 9 เดือน แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศ 

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นาย ซาอัด ฮาริรี ว่าที่นายกรัฐมนตรีของเลบานอน ตัดสินใจลาออกจากการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว หลังจากพยายามมาเกือบ 9 เดือน แต่ยังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ไม่ได้ ขณะที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหนัก 

นายฮาริรี กล่าวว่า ประธานาธิบดี มิเชล อาอุน ไม่รับข้อเสนอการตั้งคณะรัฐมนตรีล่าสุดที่ตนเสนอไป “ระหว่างการสนทนา เราเสนอให้ประธานาธิบดีใช้เวลาในการทบทวนข้อเสนอนานกว่านี้ แต่ประธานาธิบดีบอกว่า ดูเหมือนเราจะไม่สามารถตกลงกันได้” 

“ด้วยเหตุผลนั้น ผมจึงลาออกจากการเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ขอให้พระเจ้าช่วยประเทศนี้ด้วย” นายฮาริรีกล่าว 

ด้านประธานาธิบดีอาอุน ออกแถลงการณ์แสดงความกังขาว่า นายฮาริรีตั้งใจจัดตั้งรัฐบาลจริงหรือไม่ เนื่องจากนายฮาริรีปฏิเสธคำขอของตน ที่ให้แก้ไขข้อเสนอ และนายฮาริรียังตัดความเป็นไปได้ที่จะหารือเพิ่มเติม ซึ่งชี้ให้เห็นว่า เขาตัดสินใจไว้ก่อนแล้วว่าจะลาออก 

สำหรับการลาออกของนายฮาริรี นอกจากจะทำให้ค่าเงินลีราลดลงอย่างหนักแล้ว ยังทำให้เกิดการประท้วงขึ้นตามท้องถนน ผู้ชุมนุมปิดถนนหลวงหลายเส้นทาง และปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ที่เมืองไทร์ กลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุบุกทำลายร้านอาหารและคาเฟ่ ขับไล่ลูกค้าออกจากร้านด้วย 

ทั้งนี้ เลบานอนประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักมานานหลายปีแล้ว โดยค่าเงินลีรา ลดลงกว่า 90% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี หลังจากเมื่อเดือนต.ค.62 ประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้านการปกครองของกลุ่มชนชั้นสูง และไม่พอใจในภาวะเศรษฐกิจซบเซา กับการว่างงาน  

โดยเลบานอนไม่มีรัฐบาลมาตั้งแต่นายฮัสซัน ดิอับ นายกรัฐมนตรีรักษาการ ลาออกหลังเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือกรุงเบรุตในเดือนส.ค.63 ทำให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจ ส่งผลให้ภาวะการเงินของเลบานอนดิ่งเหว ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว