“เรืองไกร” ลุยยื่นร้องประธานสภา ตรวจสอบญัตติซักฟอกฝ่ายค้าน ขัดต่อ รธน.หรือไม่ ลั่นพร้อมยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. พิจารณาอีกทาง



วันนี้ (20 มิ.ย.65) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 และอดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 11 คน ว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 หรือไม่ สืบเนื่องจากข่าวการตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล รวม 11 คน ของฝ่ายค้านว่า เป็นญัตติเถื่อนหรือไม่ เรื่องนี้เมื่อแสวงหาข้อเท็จจริงพบว่า ญัตติของฝ่ายค้านก่อนลงนาม มี 2 ฉบับ คือ ฉบับไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 10 คน กับ ฉบับไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 11 คน และทั้ง 2 ฉบับ ลงวันที่ 15 มิ.ย.65 เหมือนกัน

นายเรืองไกร กล่าวว่า ญัตติที่ลงวันที่เดียวกันจึงเป็นพิรุธน่าสงสัย เพราะ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ไว้ส่วนหนึ่งว่า เมื่อเราเขียนญัตติเสร็จวันที่ 14 มิ.ย. รายชื่อของนายสุชาติ ยังไม่ได้เข้าไป บางพรรคก็เซ็นชื่อวันที่ 14 มิ.ย. และในวันที่ 15 มิ.ย. ก็มีการเก็บตกลายเซ็น ส.ส. ที่ต้องเข้าชื่ออีกครั้ง ในช่วงเวลา 11.00 น. ยังมีการแก้ไขญัตติอยู่ ก่อนที่จะยื่นญัตติต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรในเวลา 13.00 น.

“จากคำให้สัมภาษณ์ของ นพ.ชลน่าน ดังกล่าว จึงเชื่อได้ว่า ญัตติที่มีการเขียนเสร็จเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. แล้วก็ให้บางพรรคเซ็นชื่อในวันเดียวกันนั้น ยังไม่มีรายชื่อนายสุชาติ คำพูดที่ระบุว่า และในวันที่ 15 มิ.ย. ก็มีการเก็บตกลายเซ็นส.ส. ที่ต้องเข้ามาอีกครั้ง ในช่วงเวลา 11.00 น. จึงทำให้เข้าใจได้ว่า การเก็บตกลายเซ็น ส.ส. ดังกล่าวนั้น เป็นการลงนามตามญัตติที่ทำเสร็จเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ซึ่งไม่มีชื่อนายสุชาติ” นายเรืองไกร ระบุ

นายเรืองไกร กล่าวว่า ญัตติที่ยื่นต่อนายชวน เป็นญัตติที่มีรายชื่อรัฐมนตรีรวม 11 คน จึงน่าเชื่อว่า เป็นญัตติที่ทำขึ้นใหม่ ซึ่งมีการเพิ่มชื่อนายสุชาติเข้ามา แต่น่าจะใช้บัญชีรายชื่อเดิม ไม่ได้ทำขึ้นใหม่ เพราะ นพ.ชลน่าน ยอมรับสารภาพแล้วว่า ในช่วงเวลา 11.00 น. ยังมีการแก้ไขญัตติอยู่ ก่อนที่จะยื่นนายชวน ในเวลา 13.00 น.

“ประเด็นอยู่ที่ว่า การที่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยังไม่มีชื่อนายสุชาติ จึงน่าเชื่อได้ว่า มีการเพิ่มชื่อนายสุขาติเข้ามา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ระหว่างเวลา 11.00 ถึง 13.00 น. ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลังจากมี ส.ส. เซ็นชื่อในญัตติ 10 คน ไปแล้วตั้งแต่วันที่14 มิ.ย. ดังนั้น จึงมีเหตุที่ต้องตรวจสอบว่า ญัตติที่ทำขึ้นใหม่ ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 หรือไม่” นายเรืองไกรกล่าว

นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า การแก้ไขญัตติโดยเพิ่มรายชื่อเข้ามาใหม่ และยังมีการแก้ไขเนื้อหาอีกหลายที่ จนทำให้ญัตติฉบับ 10 คน ที่มีเพียง 4 แผ่น กลายเป็นญัตติฉบับ 11 คน ที่มี 5 แผ่น แต่ใช้รายชื่อ ส.ส. ที่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่าลงนามไว้เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. สำหรับญัตติ 10 คน มาแนบเป็นบัญชีแนบท้ายญัตติ 11 คน กรณีจึงมีเหตุต้องตรวจสอบว่าญัตติที่ทำใหม่ แต่ใช้รายชื่อที่แนบญัตติเก่ามาแนบนั้น ชอบหรือไม่

“เรื่องนี้น่าจะไม่ชอบ หากเทียบเคียงกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 15-18/2556 หน้า 24 ที่ระบุว่า โดยไม่ปรากฏว่ามีสมาชิกรัฐสภาร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่จัดทำขึ้นใหม่แต่อย่างใด มีผลเท่ากับว่า การดำเนินการในการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่รัฐสภารับหลักการตามคำร้องนี้ เป็นไปโดยมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 291 วรรคหนึ่ง (1)” นายเรืองไกร ระบุ

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 11 คน ซึ่งยื่นประธานสภาฯ ไปแล้วตามเลขรับที่7/2565 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. เวลา 13.20 น. จึงน่าจะเป็นญัตติที่ทำขึ้นใหม่ แต่ใช้บัญชีรายชื่อที่ลงไว้เดิมมาเก็บตกแล้วนำมาเป็นบัญชีแนบท้ายญัตติฉบับที่ยื่นนายชวน จึงมีประเด็นปัญหาตามมาว่า ญัตติใหม่ที่ใช้รายชื่อที่ลงนามไว้เดิมมาแนบนั้นชอบหรือไม่ ซึ่งหากเทียบแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 15-18/2556 อาจจะทำให้ญัตติ 11 คน ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 เพราะอาจถือเป็นญัตติที่ยังไม่มีบัญชีรายชื่อแนบท้ายนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ด้วยมูลเหตุข้างต้น จึงต้องร้องประธานสภา ให้ตรวจสอบญัตติฝ่ายค้านที่ยื่นอภิปรายรัฐมนตรี 11 คนว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 หรือไม่ และการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) หรือไม่ และเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ข้อ 8 หรือไม่ เรื่องนี้จะยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบอีกทางหนึ่งอีกด้วย