

- ปิดลงทะเบียนร้านค้า 31 มี.ค.นี้
- ใส่เงินลงสู่ระบบแล้ว 118,304 ล้านบาท
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การคัดกรองคุณสมบัติสำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ (โครงการฯ) ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคม 2564 นั้น ประชาชนกลุ่มดังกล่าวสามารถตรวจสอบสถานะการคัดกรองคุณสมบัติได้ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
โดยผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับวงเงินสิทธิ์ครั้งแรก จำนวน 6,000 บาท ในวันที่ 19 มีนาคม 2564 และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ดังกล่าวผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ได้ที่ผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม 2564 โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com หรือติดต่อสาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
นอกจากนี้ ณ วันที่ 15 มีนาคม 2564 โครงการเราชนะ มีมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 118,304 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 49,451 ล้านบาท
2.ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.6 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 66,804 ล้านบาท
และ 3. ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 500,000 คน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 2,049 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 30.8 ล้านคน
โดยส่วนมากเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ
่