
- ไตรมาส 2/64 รายได้พุ่ง 101% จากไตรมาส 2/63
- อานิสงส์คนแห่โฆษณาดันราคาปรับขึ้น 47%
- แต่ไตรมาส 3-4 รายได้หดผลปรับกฎเกณฑ์โฆษณาใหม่
เฟสบุ๊ค (Facebook) ยักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคมออนไลน์ของสหรัฐฯ เผยไตรมาส 2/64 โกยรายได้สุทธิ 10,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 338,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 101% จากช่วงเดียวกันของปี 63 หรือ 5,180 ล้านเหรียญฯ (ราว 170,000 ล้านบาท)
เฟสบุ๊ค เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/64 มีรายได้รวม 29,000 ล้านเหรียญฯ (ราว 953,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 56% จากไตรมาส 2/63 ที่มีรายได้ 18,600 ล้านเหรียญฯ (ราว 611,000 ล้านบาท) โดยในจำนวนนี้ เป็นรายได้จากการโฆษณ 28,500 ล้านเหรียญฯ (ราว 937,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63 ที่มีรายได้ 18,300 ล้านเหรียญฯ (ราว 601,000 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ยังมีจำนวนผู้ใช้รายวัน (DAU) เฉลี่ยอยู่ที่ 1,910 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/63 และมีจำนวนผู้ใช้งานรายเดือน (MAU) อยู่ที่ 2,900 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7% เช่นกัน
ขณะเดียวกัน เฟสบุ๊ค ยังเป็นเจ้าของแอปพลิเคชันเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังอีก 2 แอปฯ คือ วอตส์แอป (WhatsApp) และอินสตาแกรม (Instagram) โดยบริษัทมีจำนวนพนักงานรวม 63,404 คน เพิ่มขึ้น 21% อีกทั้งยังมีเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสด และหลักทรัพย์รวม 64,000 ล้านเหรียญฯ (ราว 2.1 ล้านล้านบาท)
เดวิด เวห์เนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเฟสบุ๊ค ระบุว่า การเติบโตของรายได้จากการโฆษณาในไตรมาส 2 มาจากราคาเฉลี่ยของโฆษณาต่อชิ้นที่เพิ่มขึ้น 47% ประกอบกับ จำนวนโฆษณาที่เผยแพร่ในแพลตฟอร์ม เพิ่มขึ้น 6% คาดการณ์ว่า การเติบโตของรายได้จะชะลอลงมากในไตรมาส 3 และ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 63
“คาดว่า ในปีนี้ เราจะเผชิญกับอุปสรรคด้านการโฆษณาแบบเจาะกลุ่มยิ่งขึ้น จากการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบของแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะการปรับปรุงไอโอเอสครั้งล่าสุด ซึ่งคาดจะส่งผลกระทบมากขึ้นในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ขณะเดียวกัน”
ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นของเฟสบุ๊ค ลดลง 3.4 5% หลังปิดการซื้อขายของตลาดหุ้นนิวยอร์ก










