“เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้” โชว์ผลดำเนินงาน 9 เดือน ปี 64 กวาดรายได้รวม 11,570 ล้านบาท เชื่อเศรษฐกิจไทยฟื้น หลังคลายล็อคดาวน์



  • เผยไตรมาส 3 ทำรายได้รวมอยู่ที่ 3,443 ล้านบาท กำไรสุทธิ 151 ล้านบาท
  • เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย จะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น หลังการระดมฉีดวัคซีน
  • ชี้โควิด-19 ยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” ทั้งล็อคดาวน์ปิดแคมป์คนงาน
  • หาทางรอดปรับกลยุทธ์ การพัฒนารูปแบบบ้าน เน้นจับกลุ่มตลาดมีกำลังซื้อสูงแทน

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ขับเคลื่อนธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ One Platform และการบริหารงานเชิงรุก ควบคู่ไปกับการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการรักษาสภาพคล่องทางการเงิน พร้อมกับสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องจากพอร์ตการลงทุนที่สมดุล ครอบคลุมกลุ่มสินทรัพย์หลากหลายประเภท ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดีภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทาย 

“บริษัทฯเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของไทยจะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังการระดมฉีดวัคซีน และคลายล็อคดาวน์ โดยกลุ่ม FPT มีความพร้อมที่จะรองรับการกลับมาของดีมานด์ในตลาด ด้วยบริการที่ครอบคลุมของแพลตฟอร์มอสังหาฯครบวงจร และความสามารถในการตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคหลังโควิด” นายธนพล กล่าว

ธนพล ศิริธนชัย

สำหรับผลการดำเนินงานในรอบ 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย. 2564) บริษัทฯมีรายได้คงที่จำนวน 3,443 ล้านบาท คิดเป็นรายได้รวมในรอบ 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย. 2564) จำนวน 11,570 ล้านบาท พร้อมกันนี้ บริษัทฯยังสามารถลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมได้ยังมีนัยยะสำคัญ กลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล” และ กลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์สพร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล” มีการบันทึกรายได้รวมในรอบ 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย. 2564) เป็นจำนวน 1,618 ล้านบาท 

โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมยังคงได้รับอานิสงค์จากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ การขยายตัวของภาคการส่งออก การย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนเพื่อบริหารห่วงโซ่สินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสถานการณ์ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าที่ส่งผลให้ความต้องการพื้นที่เช่าคลังสินค้าระยะสั้นเพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบันมีอัตราผู้เช่าโรงงานและคลังสินค้าสูงเกินเป้าหมายอยู่ที่ 85% ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมได้รับผลกระทบบางส่วนจากผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด ด้านธุรกิจอาคารสำนักงานชั้นนำยังคงอัตราค่าเช่าเฉลี่ยได้ในระดับสูงที่ 91%

นายธนพล กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงและยืดเยื้อต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” ด้วยมาตรการล็อคดาวน์ซึ่งมีการปิดแคมป์คนงาน และชะลอการก่อสร้างบางส่วน ทำให้ต้องเลื่อนเปิดโครงการ 3 แห่ง ในรอบไตรมาสที่ผ่านมา เป็นช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 และไตรมาส 1 ปี 2565 สำหรับโครงการใหม่อีก 1 โครงการที่มีกำหนดเปิดในไตรมาส 4 ปี 2564 ยังคงเป็นไปตามแผน

นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยได้ปรับกลยุทธ์ด้วยการพัฒนารูปแบบบ้านที่จับกลุ่มตลาดมีกำลังซื้อสูง โดยโครงการแกรนดิโอ สาทร โครงการบ้านหรู ดีไซน์ใหม่ ที่เปิดตัวไปในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และสามารถสร้างยอดพรีเซลช่วงเปิดตัว 2 วันแรก ได้สูงเกินเป้าถึง 3 เท่า ในจำนวน 688 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรวมตลอดระยะเวลา 9 เดือนมีจำนวน 23,322 ล้านบาท

“FPT จะมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้หลักธรรมภิบาล พร้อมทั้งรักษามาตรฐานความเป็นแบรนด์ระดับโลกของกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โดยในไตรมาสที่ผ่านมานี้ บริษัทฯ ได้รับการปรับอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือจากทริสเรตติ้งขึ้นเป็นระดับ A แนวโน้มคงที่ พร้อมยังได้รับจัดอันดับและการรับรองมาตรฐานด้าน ESG (Environmental, Social, Governance) รวม 3 มาตรฐานในปี 2564 ได้แก่ การได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในรายชื่อหุ้นยั่งยืน การประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการ (CG Rating) ในระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ” และ การได้รับจัดอันดับมาตรฐาน GRESB ในระดับ A ด้านการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนของบริษัทในหมวดหมู่ Southeast Asia Diversified Business โดยทั้งหมดนี้ได้ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มอสังหาฯ ครบวงจร ผลงานดำเนินงานด้านการเงิน รอบระยะเวลา 9 เดือน ปี 2564” นายธนพล กล่าว