เฟดยันเดินหน้าต่อขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป

  • หวังต่อสู้เงินเฟ้อลดผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
  • ลังปี 65 ประสบผลสำเร็จลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อได้
  • IMF ชี้เงินเฟ้อสหรัฐฯยังไม่ถึงจุดจบ “เฟด” อย่าเพิ่งประกาศชัยชนะ

กรรมการเฟดมีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับเงินเฟ้อ และคาดว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าจะมีข้อมูลที่ชัดเจนเพียงพอว่า เงินเฟ้อกำลังกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% แต่การจะไปถึงจุดนั้นได้ อาจใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

อย่างไรก็ดี กรรมการทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า จะยังปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่จะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ

สำหรับปี 65 การปรับขึ้นดอกเบี้ย มีผลช่วยฉุดให้เงินเฟ้ออ่อนแรงลงได้ และด้วยเหตุผลนี้ ทำให้เฟดยังเห็นถึงความจำเป็นในการสร้างสมดุลระหว่างการต่อสู้กับเงินเฟ้อและการควบคุมความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงมากเกินไป รวมทั้งความเป็นไปได้ที่ว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเพิ่มภาระให้กับภาคส่วนที่มีความอ่อนไหว

ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 13-14 ธ.ค.นั้น คณะกรรมการเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% สูงสุดในรอบ 15 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 ในปี 65 โดยเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 1 ครั้ง, 0.50% จำนวน 2 ครั้ง และ 0.75% จำนวน 4 ครั้ง รวม 4.25%

สำหรับการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟด คาดว่า จะยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในปี 66 และจะไม่ปรับลดลงจนกว่าจะถึงปี 67 โดยเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.1% ในปี 67 ก่อนที่จะสิ้นสุดวัฏจักรการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งระดับดังกล่าวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.50


ด้านนางกีตา โกปินาธ รองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า เงินเฟ้อในสหรัฐฯยังไม่ถึงจุดจบ และยังเร็วเกินไปที่ เฟด จะประกาศชัยชนะในการต่อสู้กับเงินเฟ้อที่สูงขึ้น


“หากคุณเห็นเครื่องบ่งชี้ในตลาดแรงงานสหรัฐฯ และหากพิจารณาองค์ประกอบเงินเฟ้อต่างๆ ที่อยู่ในระดับสูงอย่างมาก เช่น เงินเฟ้อภาคบริการ ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เงินเฟ้อในสหรัฐฯยังมาไม่ถึงจุดจบ”