- “คิง เพาเวอร์” รุกเปิดเต็มรูปแบบ 14 ธ.ค.นี้ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” และ “โรงแรม เดอะสแตนดาร์ด แบ็งคอกมหานคร”
- โชว์ศักยภาพ แลนด์มาร์ก เดสติเนชั่น แห่งมหานครกรุงเทพฯ
- ดึงดูดตลาดโลก ด้วยไฮไลต์ 4 ประสบการณ์ท่องเที่ยว EAT PLAY STAY SHOP
- เพียบพร้อมด้วย ร้านอาหารพรีเมี่ยม แหล่งแฮงเอาท์สุดฮิป คอนเซ็ปต์ช้อปปิ้งดิวตี้ฟรียอดนิยม
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า คิง เพาเวอร์ มหานคร เป็นหนึ่งในธุรกิจท่องเที่ยวกลุ่ม คิง เพาเวอร์ เตรียมจัดงาน KING POWER MAHANAKHON GRAND OPENING …THE MAHANAKHON OF LIVES มหานคร หนึ่งเดียวของทุกคน ในวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ช่วยกระตุ้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวส่งท้ายปี 2565 ต้อนรับปี 2566 จากยุทธศาสตร์ของ คิง เพาเวอร์ ต้องการให้ธุรกิจ ดิวตี้ ฟรี ซึ่งเป็นธุรกิจหลักสามารถขยายต่อไปยังธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวของประเทศด้วย ดังนั้นจึงได้พัฒนาการลงทุน “คิงเพาเวอร์ มหานคร” ให้เป็นแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ เมืองแห่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ ตามพอร์ตโฟลิโอทางธุรกิจซึ่งสามารถต่อยอดและสามารถทำงานร่วมกับกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ภายใต้การบริหารของกลุ่ม คิง เพาเวอร์ ร่วมขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศอย่างเป็นรูปธรรมควบคู่กันไปได้ด้วย
ในวันที่ 14 ธันวาคม นี้ คิง เพาเวอร์ มหานคร พร้อมจัดงาน “KING POWER MAHANAKHON GRAND OPENING … THE MAHANAKHON OF LIVES มหานคร หนึ่งเดียวของทุกคน’ เพื่อส่งมอบ 4 ประสบการณ์ท่องเที่ยว EAT PLAY STAY SHOP สะท้อนสีสัน เสน่ห์ ของกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่นักเดินทางทั่วโลก และคนไทยต้องมาเช็คอินประกอบด้วย แหล่งแฮงเอ้าท์สุดฮิป ร้านอาหาร ช้อปปิ้งกับร้านคอนเซ็ปต์สโตร์ รวมถึงโรงแรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ล่าสุด คิง เพาเวอร์ จับมือกับ THE STANDARD INTERNATIONAL พัฒนา “โรงแรม เดอะสแตนดาร์ด แบ็งคอกมหานคร” เข้ามาช่วยสนับสนุนให้คิง เพาเวอร์ มหานคร เป็น ICONIC WORLD CLASS LANDMARK DESTINATION
พร้อมทั้งได้พัฒนา “คิง เพาเวอร์ มหานคร” มาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งปัจจุบันมีความสมบูรณ์และความพร้อมจะเปิดตัวเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวสำคัญเพิ่มศักยภาพกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีด้วยปัจจัยความพร้อม 3 ปัจจัย ได้แก่
ปัจจัยที่ 1 ทำเลที่ตั้งในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD-Central Business Development) มีบริการตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร
ปัจจัยที่ 2 คมนาคมเข้าถึงง่ายอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรีย์สะดวกสบายในการเดินทาง
ปัจจัยที่ 3 คิง เพาเวอร์ มหานคร เป็นหนึ่งในอาคารที่มี Observation Deck เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดในประเทศ สามารถชมวิวได้ 360 องศา ทั้งวิวเมืองและโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสถานที่ดึงดูดความสนใจที่มีเอกลักษณ์สะท้อนภาพของกรุงเทพฯ ได้ชัดเจนในด้านกายภาพ เช่นเดียวกับเมืองท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ หลายแห่งของโลก เช่น ลอนดอนอายอังกฤษ หอไอเฟล ฝรั่งเศส หรือ ตึกเปโตรนาส ในมาเลเซีย
ภายใน “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้จ่ายเงินสร้างเศรษฐกิจเข้าประเทศได้เป็นอย่างดี ด้วยไฮไลต์จุดขายครบทุกมิติ คือ เป็นแหล่งแฮงเอ้าท์สุดฮิปและมีบริการร้านอาหารระดับเวิลด์คลาส ให้เลือกในบรรยากาศต่างกันถึง 5 ร้าอาหาร ได้แก่ ร้านอาหาร Mott32 ร้านอาหาร Ojo Bangkok The Standard Grill Bangkok ร้าน The Parlor ร้าน Tease Room และ Sky Beach
ขณะที่ “อาคารมหานคร คิวบ์” รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่ระดับพรีเมียมบน แบบไลฟ์สไตล์มอลล์ ทั้ง มหานคร อีธเทอรี่ โซน ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ และเดอะบิ๊กบอร์ด ประกอบกับการพัฒนาให้ คิง เพาเวอร์ มหานคร เป็นศูนย์รวมของที่สุดแห่งไลฟ์สไตล์ระดับเวิลด์คลาส ภายใต้วัฒนธรรมที่ผสมผสาน สะท้อนอัตลักษณ์ของกรุงเทพฯ ทำให้มั่นใจได้ว่า คิง เพาเวอร์ มหานคร จะเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กแห่งจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ และสามารถช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของประเทศ สอดรับกับแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวภาครัฐในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 ให้ประเทศไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ส่วนการเปิดบริการตั้งแต่เปิดประเทศเมื่อเดือนเมษายน 2565 มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเช็คอินใน คิง เพาเวอร์ มหานคร เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ให้ความสนใจกับประสบการณ์ จุดเช็คอิน “เดินบนพื้นกระจกลอยฟ้า” ที่มีความท้าทายเมื่อแต่ละคนมีโอกาสมาเยี่ยมชมตึก รวมทั้งชื่นชอบจุดชมวิว 360 องศาที่ยืนได้กับความสูงเหนือพื้น 314 เมตร ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในประเทศไทยกับ Outdoor Observation Deck บนชั้น 78
ขณะที่ “นักท่องเที่ยวคนไทย” ก็นิยมมาเช็คอินยังจุดชมวิวและมารับประทานอาหารกับเพื่อนฝูงภายใน คิง เพาเวอร์มหานคร ทั้งที่ห้องอาหาร ร้านอาหาร แต่ละสไตล์
ส่วน “โรงแรม เดอะสแตนดาร์ด แบ็งคอก มหานคร” เปิดบริการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 จนถึงขณะนี้มีการจองห้องพักและเข้าใช้บริการต่อเนื่องดีขึ้นตามลำดับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนในประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มจะมีกระแสตอบรับที่ดีในปีต่อ ๆ ไป เป็นแลนด์มาร์ก เดสติเนชั่น ที่จะช่วยเศรษฐกิจมหานครกรุงเทพฯ คึกคักได้อย่างแน่นอน
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen
