เปิดหนังสือ “อนุทิน” ทำความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม. พร้อมใบลาประชุม “พิพัฒน์” ประกาศชัด “ค้านแปลงสัญญาสัมปทาน เป็นสัญญาร่วมลงทุน รถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามข้อเสนอ กทม.



ผู้สื่อข่าวจากทำเนียบรัฐบาลว่า พบเอกสาร ที่ นร.0403(กร 3)/1861 ลงนามโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เรื่องขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งมีเนื้อหา ระบุอย่างชัดเจน ว่าไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของกรุงเทพมหานคร ตามความเห็นและเหตุผลของกระทรวงคมนาคม โดยมีรายละเอียดดังนี้

ตามที่ สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งเชิญประชุมคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ ๖/๒๕๖๕ ในวันอังคารที่ ๘กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทําเนียบรัฐบาล โดยมี ระเบียบวาระการประชุมตามอ้างถึง นั้น

อ้างตามวาระเรื่องเพื่อพิจารณา ลําดับที่ ๓ เรื่องขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบ ร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ขอเรียนว่าไม่เห็นด้วยกับการดําเนินการของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ตามความเห็นและเหตุผลของกระทรวงคมนาคมตามหนังสือกระทรวงคมนาคม ด่วนที่สุด ที่ กค (ปคร) ๐๒๐๘/๒๔ วันที่ ๗ กุมภาพันธ์๒๕๖๕ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ 

ทั้งนี้ยังพบด้วยว่า หนังสือลาประชุมของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา มีการยื่นจดหมายถึง เลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยระบุอย่างชัดเจนว่า ในวาระเพื่อพิจารณา ลำดับที่ 3 เรื่องขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้บรรจุในวาระแล้วนั้น มีความเห็นตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ตามหนังสือที่ คค.(ปคร.)0208/28 วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีรายละเอียดดังนี้

เรื่อง ขอลาการประชุมคณะรัฐมนตรี (วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565) 

เรียน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี

ตามที่สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้กําหนดให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ณตึกสันติไมตรีหลังนอก กระผมขอลาการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันดังกล่าว

อนึ่ง วาระเพื่อพิจารณา ลําดับที่ ๓ เรื่องขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญา ร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้บรรจุในวาระแล้วนั้น ผมมีความเห็น ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ตามหนังสือที่ คค (ปคร) ๐๒๐๘/๒๘ วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕

จึงเรียนมาเพื่อโปรดนําเสนอนายกรัฐมนตรีทราบ