เปิดสถานะแนวทางแก้ปัญหา82สหกรณ์-เจ้าหนี้ถือหุ้นกู้บินไทย4.2หมื่นล้านชี้ไม่กระทบฐานะการเงิน

เปิดสถานะและแนวทางแก้ปัญหา 82 สหกรณ์ที่ลงทุนในหุ้นและหุ้นกู้บินไทย 4.2 หมื่นล้าน ชี้ไม่กระทบฐานะการเงิน เมื่อเทียบสัดส่วนเงินลงทุนต่อกับสินทรัพย์รวมของสหกรณ์ที่ีมีสูงถึง 1.17 ล้านล้าน และสหกรณ์จะไม่ขาดทุนจากการตั้งสำรองหนี้เสีย หากบินไทยชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดปีนี้ไม่ได้  แต่บางแห่งอาจกำไรลดลง และขาดสภาพคล่องหากคนตกใจแห่ถอนเงิน สั่งทำความเข้าใจและเตรียมเงินสดไว้รองรับ ส่วนหุ้นกู้ที่จะทยอยครบกำหนดปี64-77 ขึ้นกับสถานะบินไทย มั่นใจว่ารัฐจะจัดการได้ดีที่สุด                                                                                                                                                                                   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เปิดผลการศึกษาแนวทางป้องกันผลกระทบต่อสหกรณ์จำนวน 82 แห่ง ที่ลงทุนในหุ้นสามัญ และ หุ้นกู้ของ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) โดยมีสหกรณ์จำนวน 81แห่ง ลงทุนในหุ้นกู้การบินไทยมูลค่าเงินต้นรวม 42,229.14 ล้านบาท และมีเพียง 4 แห่งที่ลงทุนในหุ้นสามัญการบินไทย โดยมีมูลค่าเงินลงทุน 273.93 ล้านบาท  โดยมูลค่าเงินลงทุนคิดเป็นสัดส่วน 3.62%ของสินทรัพย์รวมทั้งหมดของ 82 สหกรณ์ที่มีอยู่ทั้งสิ้นกว่า 1.17 ล้านล้านบาท 

และจากการตรวจสอบข้อมูลยังพบอีกว่า สหกรณ์ที่ลงทุนในหุ้นกู้ของการบินไทย ส่วนใหญ่จะเป็นสหกรณ์ชั้น 1 ที่มีฐานะการเงินมั่นคง ใช้เงินทุนที่มาจากสมาชิกของตัวเองเป็นหลัก โดยสหกรณ์จำนวน 59 แห่ง หรือ 77% ลงทุนในหุ้นกู้การบินไทย มูลค่าเพียง 0-5%ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของสหกรณ์แต่ละแห่ง และมีเพียงสหกรณ์7 แห่งเท่านั้น ที่ลงทุนในสัดส่วนที่มากกว่า 10%ของมูลค่าสินทรัพย์ของสหกรณ์นั้นๆ ทำให้ประเมินได้ว่าการลงทุนจะไม่มีผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของทั้ง 81 สหกรณ์แต่อย่างใด 

นอกจากนี้ยังได้มีการประเมินผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของสหกรณ์ที่ลงทุนในหุ้นกู้ พบว่าหุ้นกู้การบินไทยที่จะครบกำหนดชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยล็อตแรกในเดือน ส.ค.63 และ ก.ย.63 มี 21 สหกรณ์ถืออยู่ มูลค่ารวม 1,117 ล้านบาท  หากการบินไทยชำระหนี้คืนไม่ได้ จะทำให้สหกรณ์ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวนนั้น จะส่งผลกระทบให้สหกรณ์ 9 แห่งที่ถือหุ้นกู้อยู่ มีกำไรลดลงเกินกว่า 10% และทำให้สมาชิกได้รับเงินปันผลลดลง  แต่จะไม่มีสหกรณ์ใดขาดทุนจากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ  โดยได้มีการกำหนดแนวทางแก้ไขไว้ว่า ทางสหกรณ์จะเจรจาขอรับชำระหนี้ที่ครบกำหนดจากการบินไทย หรือขอผ่อนปรนหลักเกณฑ์การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ส่วนผลกระทบของหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในปี 64 เป็นต้นไปนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของ การบินไทย ซึ่งเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะจัดการอย่างดีที่สุด  

ทั้งนี้ หุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ต่างๆถือหรือลงทุนอยู่ และจะครบกำหนดชำระคืนตั้งแต่ปี 63-77 รวมทั้งสิ้น 42,079.2 ล้านบาท และหลังจากนั้นอีก 150 ล้านบาท  รายละเอียดดังนี้คือ ปี63 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 21 แห่ง  คิดเป็นมูลค่า1,117ล้านบาทแล้ว  ปี64 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 25 แห่ง มูลค่า3,244.1ล้านบาท , ปี 65 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 36 แห่ง มูลค่า4,991.0ล้านบาท , ปี 66 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 30 แห่ง มูลค่า 3,349.5ล้านบาท , ปี 67 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 28 แห่ง มูลค่า 3,455.1ล้านบาท , ปี 68 จ จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 33 แห่ง มูลค่า 5,031.2 ล้านบาท ,

ปี 69 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 26 แห่ง มูลค่า 2,070.2 ล้านบาท , ปี 70 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 27 แห่ง มูลค่า 2,518.6 ล้านบาท , ปี 71 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 41 แห่ง มูลค่า 5,608.8 ล้านบาท , ปี 72 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 20แห่ง มูลค่า 3,794.5 ล้านบาท , ปี 73 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน  10แห่ง มูลค่า 956.0 ล้านบาท , ปี 75จ จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 18 แห่ง มูลค่า 1,479.7 ล้านบาท , ปี 76 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 21 แห่ง มูลค่า 1,170.7 ล้านบาท และในปี 77  จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 23 แห่ง มูลค่า 3,292.8 ล้านบาท

 นอกจากนี้ ยังได้มีการเปรียบเทียบสินทรัพย์สภาพคล่องของสหกรณ์ที่ลงทุนในหุ้นกู้การบินไทยเทียบกับเงินรับฝากจากสมาชิกพบว่า สหกรณ์ 67 แห่ง (หรือคิดเป็น 82%ของสหกรณ์ทั้งหมด82แห่ง) มีสินทรัพย์สภาพคล่องมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับเงินรับฝากจากสมาชิก ขณะที่มี 15 สหกรณ์(หรือคิดเป็น 18%) มีสินทรัพย์สภาพคล่องน้อยกว่า 10%

ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบ ให้สหกรณ์ที่ลงทุน อาจขาดสภาพคล่องในระยะสั้นๆเนื่องจาก สมาชิกขาดความเชื่อมั่น และตกใจซึ่งอาจจะแห่ถอนเงินฝากจากสหกรณ์  โดยกรณีนี้ ได้วางแนวทางแก้ไข ด้วยการชี้แจงและทำความเข้าใจกับสมาชิก รวมถึงประสานสหกรณ์ให้มีการจัดเตรียมเงินสดเพื่อรองรับถอนเงินฝาก โดยเปลี่ยนหลักทรัพย์ที่ลงทุนไว้เป็นเงินสด 

สำหรับในส่วนของสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทย ซึ่งมีสมาชิกจำนวน 22,691 คนนั้น  พบว่าสถานะการเงินล่าสุดเดือน เม.ย.63  มีทุนดำเนินงาน  52,456 ล้านบาท เป็นทุนเรือนหุ้น 19,222.3 ล้านบาท มีเงินรับฝาก จำนวน 26,886.9 ล้านบาท  พบว่าผลการดำเนินงานมีกำไร 3 ปีต่อเนื่อง โดยปี 62 มีกำไร 1,365 ล้านบาท มีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 48.22%  จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับการบินไทย ได้ส่งผลกระทบดังนี้ 1.ทำให้สมาชิกขาดความเชื่อมั่นและตกใจ ซึ่งอาจลาออกหรือถอนเงินฝากจำนวนมาก จะส่งผลกระทบต่อการต้องคืนเงินรับฝากและค่าหุ้นได้ 2.กรณีที่พนักงานการบินไทยถูกปลดออก หรือ ลดเงินเดือน อาจส่งผลต่อการหักชำระหนี้ของสหกรณ์ และก่อให้เกิดหนี้เอ็นพีแอลมากขึ้นได้ 3.สมาชิกไม่มีการฝากเงินเพิ่ม และส่งค่าหุ้นรายเดือนลดลง ส่งผลให้มีเงินสดเข้าสหกรณ์น้อยลง ซึ่งกำหนดแนวทางแก้ไขไว้คือ เนื่องจากสหกรณ์มีสภาพคล่องเป็นเงินสด เงินฝาก ตราสาร และกองทุน รวมกันราว 8,700 ล้านบาท สหกรณ์ต้องปรับโครงสร้างหนี้ให้กับสมาชิกที่กู้เงินเพื่อให้สมาชิกมีรายได้เพียงพอในการชำระหนี้ได้