. นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กลับมาธุรกิจได้รับผลกระทบอยู่
. ออกเมนูใหม่ประเภทข้าวมากขึ้นและเมนูราคาย่อมเยาเข้าถึงคนไทย
. ปรับการสื่อสารเชื่อมต่อกับคนไทยเข้าใจมากขึ้น
. ออกโปรแรงๆ อย่างต่อเนื่อง เริ่มจากซื้อ 1 แถม 1
นายธนวรรธ ดำเนินทอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารธุรกิจเบอร์เกอร์ คิง เปิดเผยว่า ทางเบอร์เกอร์คิงกำลังปรับกลยุทธ์ธุรกิจหรือทรานสฟอร์มเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยให้มากขึ้น เพื่อฟื้นฟูจากการได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สาเหตุหลักคือทำเลทองที่สร้างรายได้หลักล้วนแต่อยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมกัน โดยเฉพาะในจ.ภูเก็ต ที่ทำรายได้สูงต้องปิดตัวลงถึง 7 สาขา รวมถึงสาขาที่ทำรายได้สูงที่สุดคือในสนามบินภูเก็ตก็ปิดตัวลง
“ธุรกิจในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต แต่เมื่อโควิดมาสาขาที่มีอยู่ 96 สาขา ต้องปิดตัวไป 12 สาขา แม้ว่าในปัจจุบันจะไม่มีปัญหาการแพร่ระบาดแล้ว แต่เรายังได้รับผลกระทบอยู่เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไม่ได้ และนับว่าเป็นโอกาสอันดีที่เราจะมาโฟกัสจับตลาดลูกค้าชาวไทย”
นายธนวรรธ กล่าวว่า การปรับกลยุทธ์ดังกล่าวเริ่มด้วย 1.จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ไม่ใช่เบอร์เกอร์ออกมามากขึ้น เช่นโจ๊กที่เคยทำอยู่จะนำกลับมารวมทั้งเมนูข้าว อื่นๆ รวมทั้งราคาจะจับต้องได้ 2. ด้านการสื่อสารการตลาดจะให้ความสำคัญมากขึ้น ยอมรับว่าที่ผ่านทั้งป้ายสินค้าและการตบแต่งในร้านค้ามีแต่ภาษาอังกฤษซึ่งมีการเรียกเมนูผิดๆ กันเยอะมากจะเน้นภาษาไทยให้มีความเข้าใจมากขึ้น จะได้เห็นในสาขาใหม่ๆ ต่อไป 3.โปรโมชั่น จะให้ความคุ้มค่ากับเงินที่ผู้บริโภคใช้จ่ายออกมา
ล่าสุดเบอร์เกอร์คิงได้ออกโปรโมชั่นที่แรงและคาดว่าถูกใจผู้บริโภคมาก ซื้อเมนูเบอร์เกอร์ยอดนิยม 1 ชิ้น แถมอีกฟรี 1 ชิ้น ในแคมเปญ “คริสต์มาสไม่คิดมาก” ฉลองก่อนใครตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนพฤศจิกายน
คริสต์มาสทั้งที เบอร์เกอร์คิงให้คุณเลือกได้เอง กับบรรดาเมนูยอดนิยมอย่าง
• วอปเปอร์ จูเนียร์ ชีส (Whopper Jr. Cheese) เบอร์เกอร์ซิกเนเจอร์หมู / เนื้อ ประกบด้วย ชีสแผ่นหนา แตงกวาดอง หอมใหญ่ มะเขือเทศ ผักกาดขาวสดกรอบ พร้อมเพิ่มรสชาติด้วยซอสมายองเนส
• นินจาเบอร์เกอร์ (Ninja Burger Pork) เบอร์เกอร์หมูสไตล์ญี่ปุ่นตัวจริง อร่อยฉ่ำทุกคำด้วยซอสเทอริยากิสูตรพิเศษ พร้อมซอสมายองเนส ตัดเลี่ยนด้วยหอมทอดเพิ่มรสสัมผัสกรุบกรอบเคี้ยวเพลิน
• ฟิช แอนด์ คริสป์ (Fish N’ Crisp) เบอร์เกอร์ปลาชิ้นโต ๆ เสิร์ฟร้อนพร้อมซอสทาร์ทาร์เข้มข้นและชีสแผ่น
• เบอร์เกอร์สะโพกไก่ทอด (Tender Crisp) เบอร์เกอร์สะโพกไก่ทอดกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อม มะเขือเทศฉ่ำน้ำ ผักกาดแก้วสดกรอบ และ ซอสมายองเนสหวานนุ่ม
เบอร์เกอร์ คิง ยังเนรมิตเทศกาลแห่งความสุขด้วยการตกแต่งบรรยากาศในร้านให้พร้อมสำหรับการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสในครั้งนี้ด้วย ต้นคริสต์มาส และ ไฟระยิบระยับ ที่รอให้สายโซเชียลตามไปสแนปภาพกับแลนด์มาร์คใหม่นี้ อีกทั้งยังมีกิจกรรมพิเศษให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ทั้งนี้ทุกคนสามารถไปตามเก็บภาพแลนด์มาร์คใหม่ของเบอร์เกอร์ คิง และเข้าร่วมกิจกรรม ได้ที่ 3 สาขา ได้แก่ สาขาโครงการ เมซ ทองหล่อ สาขาสยามพารากอน และ สาขาปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ รามอินทรา
นายธนวรรธ กล่าวว่า ยอมรับว่าที่ผ่านมาธุรกิจได้รับผลกระทบ แต่เรามองไปข้างหน้า พร้อมตั้งเป้าว่าโปรโมชั่นนี้จะช่วยผลักดันให้ยอดขายเติบโตขึ้น 25% เมื่อเทียบกับสองไตรมาสที่ผ่านมา นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้ เบอร์เกอร์ คิง จะเตรียมเปิดโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมการขายและตอบแทนผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่กำลังจะมาถึงจะเน้นไปที่การเจาะตลาดผู้บริโภคคนไทยเป็นหลัก
สำหรับทิศทางธุรกิจในอนาคต มองว่ายังสามารถขยายสาขาได้อีกมาก และยังมีอีกหลายทำเล และหลายจังหวัดที่ยังไม่ได้เข้าไปลงทุน โดยไม่ได้ตั้งเป้าขยายสาขาไว้ แต่ขีดความสามารถของเบอร์เกอร์คิงสามารถขยายเพิ่ม 10 สาขาได้สบายๆ
“ปีที่ผ่านมาเราได้ขยายสาขาใหม่ 15 สาขา ปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มอีก 10 สาขา แต่เจอโควิดก่อน แต่ปลายปีนี้่จะเปิดใหม่อีก 7 สาขา ส่วนสาขาในภาคใต้และจังหวัดท่องเที่ยวต้องรอนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาสถานเดียว”
โดยรูปแบบสาขาของเบอร์เกอร์คิงยังให้ความสำคัญกับการขยายสาขาในสถานบริการน้ำมันทุกแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น ปตท., บางจาก, เอสโซ่หรือคาลเท็กซ์ แต่ก็ไม่ได้ยึดติด หากทำเลที่ต้องการไปจะเป็นศูนย์การค้าก็ต้องลงทุน อย่างเช่นศูนย์การค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพมาก
“เรามีความยืดหยุ่น หากวิธีการเข้าถึงลุกค้าในรูปแบบต่างๆ” นายธนวรรธกล่าว
สำหรับรูปแบบของธุรกิจร้านอาหาร แนวโน้มของการรับประทานอาหารในร้านจะลดลงจากสัดส่วนเหลือ 60% จาก 70% ฟู้ดเดลิเวอรี่จะเพิ่มเป็น 20% จาก 10% และไดร์ฟทรู 15% โดยธุรกิจเดลิเวอรี่จะมาจาก 3 ส่วนคือจากเบอร์เกอร์คิง, 1112 ของไมเนอร์ฟู้ด และผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ ที่กำลังขยายการบริการไปต่างจังหวัดมากขึ้น จะยิ่งผลักดันการเติบโตในธุรกิจนี้อย่างมีนัยสำคัญ
