‘เนสท์เล่’ ปั้นแบรนด์ ‘ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์’ บุกตลาด Plant-based Food ตั้งเป้าสร้าง brand awareness ว่าอาหารเพื่อการดูแลสุขภาพ มีโภชนาการและรสชาติอร่อย

เนสท์เล่เปิดแบรนด์ใหม่ฮาร์เวสต์กูร์เมต์บุกตลาดอาหารจากพืชหรือ Plant-based Food ในเมืองไทยเริ่มมีนาคมกับพันธมิตรร้านอาหารพัฒนาเมนูและรสชาติให้ถูกใจตั้งเป้าสร้าง brand awareness กันนวัตกรรมของเนสเล่และสร้างประสบการณ์ใหม่ว่าอาหารที่ใส่ใจในสุขภาพนี้มีรสชาติอร่อยและมีโภชนาการ

น.ส.เครือวัลย์ วรุณไพจิตร ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารและเนสท์เล่โพรเฟชชันนัล ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทางเนสท์เล่ได้เปิดตัว ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ (HARVEST GOURMET) ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับโลกเพื่อเสริมพอร์ตและบุกตลาดอาหารจากพืช หรือ Plant-based Food เป็นครั้งแรกเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจในการดูแลสุขภาพ และ โภชนาการกันมากขึ้น พร้อมนำเสนอรสชาติและความอร่อยใกล้เคียงกันเนื้อสัตว์

ในปัจจุบันพบว่ากว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของคนไทยบริโภคอาหารที่ทำจากพืช ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่ผู้บริโภคที่ทานมังสวิรัติ หรือ เจ แต่ยังรวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ด้วยเหตุผลที่ใส่ใจด้านสุขภาพ ลดน้ำหนัก รวมทั้งความเชื่อเรื่องการละเว้นหรือการบริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยลง และเหตุผลในการช่วยเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 

ทั้งนี้อาหารจากพืชดังกล่าวทางเนสท์เล่ได้เปิดตลาดในยุโรปและสหรัฐฯมานานแล้ว และเริ่มเข้ามาบุกตลาดในเอเชีย เริ่มจากที่ประเทศจีนและออสเตรเลีย ตามด้วยไทย มาเลเซียและสิงคโปร์ต่อไป ซึ่งตลาดไทยปัจจุบันอยู่ในช่วงเริ่มต้นมีมูลค่าประมาณ 900 ล้านบาท มีอัตราเติบโตที่ 20%

ฮาร์เวสต์กูร์เมต์นำเสนอนวัตกรรมอาหารจากพืช (Plant-based Food) มีโปรตีนสูงเป็นแหล่งของใยอาหารไม่ใส่วัตถุกันเสียไม่ใช้สีสังเคราะห์แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งประสบการณ์อาหารรสชาติอร่อยที่คาดไม่ถึงมาในรูปแบบผลิตภัณฑ์เริ่มแรก 5 ประเภทอาทิเนื้อเบอร์เกอร์, เนื้อบดละเอียด, ไก่ย่างรมควัน, ไก่ชุบเกล็ดขนมปังและมีทบอลซึ่งล้วนมีส่วนประกอบหลักที่ทำจากโปรตีนพืชได้แก่พืชตระกูลถั่วจากธรรมชาติ, แต่งสีธรรมชาติเช่นบีทรูทสกัดเข้มข้นและแครอทสกัดเข้มข้นตลอดจนเพิ่มเนื้อสัมผัสที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำมันมะพร้าวให้มีลักษณะคล้ายไขมันแทรกเพื่อมอบรสชาติเสมือนเนื้อจริงโดยเรามีฐานการผลิตล่าสุดสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่มาเลเซียซึ่งจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์จากฮาร์เวสต์กูร์เมต์มีรสชาติที่ถูกปากคนเอเชียรวมถึงคนไทยแน่นอน” 

..เครือวัลย์ กล่าวว่า แบรนด์นี้จะเป็นแบรนด์แรกของเนสท์เล่ซึ่งจะบุกตลาดตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นไป เจาะตลาดพันธมิตรร้านอาหารโดยจะร่วมกันพัฒนาเมนูและรสชาติเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งคาดหวังว่าจะสร้างความเข้าใจและความคุ้นเคยในสิ่งใหม่เพื่อความนิยมในวงกว้างต่อไปว่าจากประสบการณ์ที่เคยเจอรสชาติไม่อร่อยมั่นใจว่าจะะสร้างประสบการณ์ที่คาดไม่ถึงให้กับผู้บริโภคได้ 

สำหรับผลสำรวจพบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยที่หันมาใส่ใจสุขภาพด้วยการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ หรือที่เรียกว่า Flexitarian นี้ มีอยู่ 2 กลุ่มหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มคนรักสุขภาพ (65%) และ กลุ่มควบคุมน้ำหนัก (20%)

จันทิมา เกยานนท์ นักโภชนาการ บริษัทเนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวถึงคุณประโยชน์ทางด้านโภชนาการของอาหารจากพืช (Plant-based Food)ว่า “Plant-based Food คืออาหารที่มาจากพืชผักผลไม้เห็ดต่างๆรวมไปถึงธัญพืชและถั่วโดยข้อมูลพบว่าถั่วบางชนิดเช่นถั่วเหลืองจัดเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์กล่าวคือมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วนดังนั้นการเลือกทานอาหารจากพืชควรเลือกทานให้มีความหลากหลายและได้รับสารอาหารที่เพียงพอข้อแนะนำสำหรับการทานโปรตีนให้เพียงพอคือควรได้รับปริมาณโปรตีน 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก. เพราะร่างกายต้องใช้โปรตีนในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อซ่อมแซมร่างกายและใช้เป็นพลังงานเมื่อถึงคราวจำเป็นอาหารจากพืช (Plant-based Food) ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่รักสุขภาพซึ่งนอกจากมีโปรตีนสูงแล้วยังเป็นแหล่งของใยอาหารอีกด้วย

ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้ธุรกิจร้านอาหาร หันมาให้ความสำคัญกับเมนูโปรตีนจากพืชกันมากขึ้นโดยมีเมนูมังสวิรัติ และ โปรตีนจากพืชเพิ่มขึ้นถึง 65% และ 32% ตามลำดับ** ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยสร้างทัศนคติใหม่ ๆ ที่ดีกับผู้บริโภค ซึ่งผลสำรวจในต่างประเทศเผยให้เห็นว่า ผู้บริโภคชื่นชอบร้านอาหารที่นำเสนอเมนู Plant-based เพราะมีอาหารทางเลือกเพื่อผู้ที่รักสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมองว่าภาพลักษณ์ของร้านดูทันสมัย และ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย