
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมา เสนอให้รัฐบาลออก พ.ร.ก.ตั้งคำถามประชามติ ให้ไม่มีการชุมนุมภายใน 2 ปี เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ว่า น่าจะเป็นเพียงการเปิดประเด็นเพื่อหยั่งกระแสของสังคมมากกว่า เพราะการทำประชามติในเรื่องใดๆ จะต้องมีหลักเกณฑ์และกระบวนการในการทำประชามติที่กฎหมายรองรับ ดังนั้นข้อเสนอของนายไพบูลย์ เป็นข้อเสนอตามอารมณ์ของตัวเอง ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ซึ่งจะมีปัญหาในทางปฏิบัติหลายประเด็น คือ
1.หัวข้อหรือประเด็นการทำประชามติ สามารถกระทำได้หรือไม่ เพราะการห้ามไม่ให้มีการชุมนุมของประชาชน ซึ่งเป็นสิทธิ์พื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถกระทำได้
2.ตอนนี้ยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการทำประชามติแต่อย่างใด เพราะ พ.ร.บ.การทำประชามตินั้น รัฐบาลกำลังจะนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรในเร็วๆนี้ และต้องมีกระบวนการพิจารณาในการออก พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่น้อยกว่า 2-3 เดือน
3.จะต้องมีระยะเวลาในการเตรียมพร้อมการทำประชามติ หลังจาก พ.ร.บ.การทำประชามติมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งจะต้องใช้เวลานานพอสมควร
4.การทำประชามติประเด็นการกำจัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่ใช่ประเด็นเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ไม่สามารถกระทำได้
5.ข้อเสนอให้ทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่นคือนายก อบจ.และ สจ.ทั่วประเทศ ในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 เป็นหน้าที่ของ กกต. ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 เดือน คงไม่เพียงพอต่อการเตรียมการทำประชามติ
6.เมื่อยังไม่มี พ.ร.บ.การทำประชามติใช้บังคับ การจะเสนอให้รัฐบาลออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ไม่มีเหตุตามมาตรา 172 แห่งรัฐธรรมนูญ ปี 2560 จึงไม่สามารถออกเป็นพระราชกำหนดได้
“ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายไพบูลย์ ในการทำประชามติเพื่อบังคับห้ามไม่ให้ประชาชนคนไทยชุมนุมทางการเมืองภายในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งเป็นการยื่นข้อเสนอที่ขัดต่อหลักสิทธิเสรีภาพที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และถ้าหากรัฐบาลตัดสินใจทำประชามติห้ามไม่ให้มีการชุมนุมภายใน 2 ปีจริง เชื่อว่าจะมีการคัดค้านหรือการต่อต้านอย่างกว้างขวางแน่นอน แค่ปัญหาการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร 2563 ก็มากเพียงพอเกินกว่าที่รัฐบาลจะรับมือได้แล้ว อย่าสร้างประเด็นปัญหาขึ้นมาเพิ่มเติมอีกจะดีกว่า” นายเทพไท กล่าว










