“เต้”ซัด “บิ๊กตู่”มีคนตายเพราะโควิดยัง WFH ทุเรศสิ้นดี ถูกขัดคอประท้วงหยาบคาย



วันที่ 31ส.ค.2564 ในการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อมาๆนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยโจมตีการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19ว่า ปล่อยให้ประชาชนเผชิญโรคระบาดแบบตามมีตามเกิด รอวัคซีน รอยา รอเตียง รอออกซิเจน และรอความตายอย่างทรมาน ตายข้างถนน ตายอย่างอนาถา จนต้องรอเตาเผา แต่นายกฯ ก็ยังเวิร์กฟอร์มโฮม ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. จนถึงวันที่ 18 ส.ค.ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าทุเรศสิ้นดี

ทำให้นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งประกาศว่าจะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย ประท้วงว่า คำพูดหลายอย่างของนายมงคลกิตติ์ ไม่เหมาะกับคนที่เป็นส.ส. ไม่ใช่แค่ด้อยค่าวัคซีน แต่ยังด้อยค่าความเป็นส.ส.ด้วย ขนาดอ่านเอกสารก็ยังอภิปรายวนเวียนซ้ำซาก

จากนั้นนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ที่ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม วินิจฉัยว่า ตนรับฟังอยู่ตลอด ซึ่งผู้อภิปรายยังพูดอยู่ในประเด็น ทำให้นายมงคลกิตติ์ อภิปรายต่อ แต่ยังถูกประท้วงจากพ.ต.ท.ฐนภัทร ​กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเคยอยู่พรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งนายรังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงนายมงคลกิตติ์ว่า ใช้วาจากริยาไม่สุภาพ ใส่ร้ายเสียดสี

ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สมาชิกที่ลุกขึ้นประท้วงนายมงคลกิตติ์นั้น ทำไมไม่สามารถรับฟังคำวิจารณ์ที่มีต่อนายกฯ หรือครม. ที่บริหารงานผิดพลาดได้ ครั้งนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่มีมาชมกัน ดังนั้นต้องรับฟังให้จบ และหน้าที่ตอบเป็นของครม. หากประธานฯ เห็นว่าการประท้วงไม่เข้าข้อบังคับ แต่ยังปล่อยให้ประท้วงจนจบ ก็เป็นความผิดของประธาน ทำให้นายสุชาติ ตัดบทว่าตามข้อบังคับ หากมีสมาชิกยกมือก็ต้องให้ชี้แจง และต้องรับฟังทั้งสองฝ่าย จากนั้นนายมงคลกิตติ์ อภิปรายจนจบ