เตรียมเฮ! ธ.ก.ส.คาดเดือนมี.ค.ข้าวหอมมะลิตันละ 12,000 บาท-ยางพารา 51.89 บาทต่อกก.



  • ​เหตุมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19
  • การเปลี่ยนฤดูกาลในแต่ละพื้นที่เพาะปลูก

นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนมี.ค. 2564   โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 11,859 – 12,028 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.47% เนื่องจากสต็อกข้าวในยุ้งฉางของเกษตรกรลดลง   และราคาส่งออกข้าวหอมมะลิไทยใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งขัน ทำให้ประเทศคู่ค้ามีการนำเข้าข้าวหอมมะลิมากขึ้น  ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 8.27 – 8.33 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.00% เนื่องจากผลผลิตที่เก็บเกี่ยวในฤดูแล้งมีเพียง 5% ของปริมาณผลผลิตทั้งปี

ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพฤษภาคมปรับตัวขึ้น ผู้ประกอบการจึงลดการนำเข้าข้าวสาลี ส่งผลให้ความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อเก็บสำรองไว้ปรับเพิ่มขึ้น  ยางพาราแผ่นดิบ ชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 51.22 – 51.89 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.80% เนื่องจากผลผลิตมีแนวโน้มลดลงจากยางพาราเข้าสู่ช่วงผลัดใบส่งผลให้เกษตรกรหยุดกรีดยางพารา ขณะที่ความต้องการน้ำยางพาราของตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการของรัฐบาลในการบริหารจัดการน้ำยางพาราสดสนับสนุนให้ราคายางพารามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น 

ส่วนมันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 2.07 – 2.11 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 2.43% เนื่องจากความต้องการของผู้ประกอบการในการเก็บสต็อกผลผลิตมันเส้นเพื่อรองรับความต้องการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพอากาศที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยวผลผลิต ส่งผลต่อคุณภาพเชื้อแป้งในหัวมันสำปะหลังอยู่ในเกณฑ์สูง และกุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 137.00 – 139.00  บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.46% เนื่องจากในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เกษตรกรชะลอการลงลูกกุ้งตามความต้องการบริโภคที่ลดลง ส่งผลให้ผลผลิตลดลง ประกอบกับภาวะการค้าในประเทศมีความคล่องตัวขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการการระบาดของไวรัสโควิด-19 และตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครที่คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2564

ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่ 8,752 – 9,074 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน 4.15% เนื่องจากผลผลิตข้าวนาปรังกำลังออกสู่ตลาด โดยคาดว่ามีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังจำนวน 4.6 ล้านไร่ ประกอบกับผลผลิตข้าวเวียดนามในช่วงปลายฤดูหนาวออกสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งผลผลิตข้าวในฤดูกาลนี้ถูกส่งออกสู่ตลาดโลก  ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาวราคาอยู่ที่ 10,685 – 10,725 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน 0.42% เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวเหนียวนาปรังกำลังออกสู่ตลาด 

ส่วนน้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 16.54 – 16.70 เซนต์/ปอนด์ ลดลงจากเดือนก่อน 2.50 %เนื่องจากแนวโน้มการผลิตน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นของประเทศอินเดีย  โดยสมาคมการค้าน้ำตาลของประเทศอินเดียคาดการณ์ว่าผลผลิตน้ำตาลของประเทศอินเดียในปี 2563/64  จะเพิ่มขึ้น 9.0% เป็น 29.9 ล้านตัน ปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 6.76 – 6.86 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน  1.75% เนื่องจากคาดว่าปริมาณผลผลิตทยอยออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นจากการที่ต้นปาล์มน้ำมันได้รับน้ำฝนเพิ่มขึ้นในพื้นที่เพาะปลูกสำคัญ และสุกร ราคาอยู่ที่ 74.90 – 75.32 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 1.82 % เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อสุกรภายในประเทศเข้าสู่ภาวะปกติ จากที่ผ่านมาความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ตาม ราคาสุกรจะลดลงไม่มากนัก เพราะยังมีความต้องการจากต่างประเทศซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากปัญหาการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร