- กขค.พบพฤติกรรมค้าไม่เป็นธรรม เอาเปรียบคู่แข่ง
- กำหนดเงื่อนไข ห้ามร้านอาหารให้ฟู้ดดีลิเวอรี่รายอื่นส่งให้
- เดินหน้าสอบสวนต่อพบผิดจริงปรับ 10% ของยอดขาย
นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้ประกอบธุรกิจให้บริการส่งอาหาร (ฟู้ด ดีลิเวอรี่แอปพลิเคชั่น) ที่อาจมีพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมโดยเฉพาะอาจเรียกเก็บค่าบริการ หรือค่าใช้จ่ายจากร้านอาหารไม่เป็นธรรม เช่น เรียกเก็บค่าบริการในอัตราสูงขึ้นมาก เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้น เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการโฆษณาแนะนำร้านอาหารให้แก่ลูกค้า และอาจกำหนดเงื่อนไขทางการค้า ที่เป็นการจำกัด หรือขัดขวางการประกอบธุรกิจของผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรมรวมทั้งอาจตกลงกันกำหนดค่าบริการหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ นั้น เบื้องต้น พบว่า มีผู้ประกอบธุรกิจให้บริการส่งอาหารบางราย อาจกำหนดเงื่อนไขห้ามร้านอาหาร ใช้บริการของผู้ประกอบธุรกิจฟู้ด ดีลิเวอรี่รายอื่นอย่างไม่เป็นธรรม ส่วนการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
“หลังตรวจสอบแล้ว และเบื้องต้นพบว่า ฟู้ดดีลิเวอรี่บางราย อาจมีพฤติกรรมกำหนดเงื่อนไขห้ามร้านอาหาร ใช้บริการของผู้ประกอบธุรกิจฟู้ดดีลิเวอรี่รายอื่นอย่างไม่เป็นธรรมนั้น คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สขค.) สืบสวน สอบสวนพฤติกรรมและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องหากพบว่า มีการกระทำความผิดให้ดำเนินคดีตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 โดยเร่งด่วน”
สำหรับกรณีที่เป็นการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม หรือกำหนดเงื่อนไขทางการค้า อันเป็นการจำกัดหรือขัดขวางการประกอบธุรกิจของผู้อื่น เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 57 ซึ่งจะมีโทษปรับทางปกครองไม่เกิน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด และกรณีที่เป็นการตกลงร่วมกันกำหนดค่าบริการ หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ เข้าข่ายความผิดตามมาตรา54 ซึ่งมีโทษอาญา จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายสมศักดดิ์ กล่าวต่อถึงการพิจารณากำหนดแนวปฏิบัติทางการค้าในธุรกิจบริการส่งอาหาร หรือไกด์ไลน์ เพื่อให้เป็นแนวปฏิบัติทางการค้าอย่างเป็นธรรม ที่มีความชัดเจน และป้องกันไม่ให้มีการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจบริการส่งอาหาร นั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างการเชิญผู้ประกอบการฟู้ดดีลิเวอรี่ และร้านอาหาร รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล และข้อเท็จจริง หลังจากนั้น จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก่อนออกประกาศให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
