เดอะมอลล์กรุ๊ป ประกาศโรดแมพยุทธศาสตร์ 3 ปีรุกดิจิทัลแพล็ตฟอร์ม ระบุมาช้าแต่ชัวร์ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 2,000 ล้านบาท

น.ส.ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัดได้วางโรดแมพยุทธศาสตร์ 3 ปีสู่ดิจิทัล คอมเมิร์ช รีเทล แพล็ตฟอร์ม ด้วยการรุก “ออมนิชาแนล” เริ่มต้นเพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งในโลกออฟไลน์และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ ประเดิม 2 เว็บ คือ www.monline.com และ www.gourmatmarketthailand.com โดยจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.นี้เป็นต้นไป

การรุกสู่ดิจิทัล แพล็ตฟอร์มนี้แม้ว่าจะมาช้ากว่าคู่แข่งแต่สำหรับธุรกิจนี้ในภูมิภาคอาเชียนอีคอมเมิร์ชมีสัดส่วนเพียง 4% เมื่อเทียบกับค้าปลีกในรูปแบบศูนย์การค้าแบบดังเดิม แต่มีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงมากโดยเฉพาะในยุคของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด

น.ส.ศุภลักษณ์กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายของดิจิทับแพล็ตฟอร์มในปีนี้แรกคาดหมายว่าจะทำยอดขายได้ 2,000 ล้านบาท ขณะที่ 3 ปีแรกตั้งเป้ายอดขายจะมีสัดส่วน 15% ของยอดขายรวมของศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าแบบดั้งเดิมที่จะมีการเปิดสาขาใหม่อีกอย่างน้อย 2 สาขา และ 5 ปีจะเพิ่มสัดส่วนยอดขายเป็น 25%

น.ส.ศุภลักษณ์กล่าวด้วยว่า ดิจิทัล แพล็ตฟอร์มของเดอะมอลล์กรุ๊ปจะเน้นที่คอนเทนท์เสมือนการช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ดิเอ็มโพเรียม ดิเอ็มควอเทียร์ สยามพารากอน รวมทั้งกูรเมต์มาร์เก็ต ที่ได้รับการยอมรับในฐานะซูเปอร์มาร์เก็ตที่ดีที่สุด สมบูรณ์แบบที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ได้อย่างสะดวกเพียงปลายนิ้วสัมผัส อีกทั้งยังจะได้รับประสบการณ์ที่ทำให้ลูกค้าสนุกกับการช้อปแบบ SHOPPER-TAINMENT อีกด้วย เป็นการนำจุดแข็งของเดอะมอลล์กรุ๊ปร่วมกับพันธมิตรมารวมกันไว้ พร้อมกับการสร้างความสมดุลระหว่างธุรกิจศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าแบบดั้งเดิมและดิจิทัล แพล็ตฟอร์มเดินคู่ขนาดกันไปในอนาคต

ดิจิทัลทรานส์ฟอร์มธุรกิจของเดอะมอลล์ กรุ๊ป สู่ OMNICHANNEL อย่างเต็มรูปแบบในครั้งนี้ เป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาธุรกิจรีเทลที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน จากศักยภาพความแข็งแกร่งซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่เป็น 5 CORE VALUES & STRENGTH จุดแข็งที่โดดเด่นและแตกต่างคือ

  • COMPLETE PRODUCT PORTFOLIO ความครบสมบูรณ์ของสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้าทุกเจนเนอเรชั่น
  • O2O SEAMLESS EXPERIENCE ประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ O2O: OFFLINE TO ONLINE รวมทั้ง SOCIAL MEDIA ผ่าน CHAT & SHOP
  • EXTRAORDINARY IMMERSIVE EXPERIENCE ช้อปปิ้งแบบพิเศษสุดทั้งในเรื่องเอ็กซ์คลูซีฟโปรโมชั่นแคมเปญ และสนุกไปกับประสบการณ์ SHOPPER-TAINMENT ตลอดจน POP UP EVENTS ต่างๆ
  • LOYALTY PROGRAM & PARTNER PRIVILEGES ลอยัลตี้โปรแกรมพิเศษเฉพาะของสมาชิกบัตร M CARD กว่า 4.5 ล้านคน รวมทั้งการผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจต่างๆ มอบสิทธิพิเศษ และสิทธิประโยชน์มากมาย
  • PERSONALIZATION & CUSTOMIZATION, LIFESTYLE INSPIRED CONTENTS & COMMUNITY ENGAGEMENT การสร้างคอมมิวนีตี้ผ่านคอนเทนท์และอีเวนท์ที่โดนใจ ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้าอยู่เสมอ ที่เชื่อมโยงทั้ง ONLINE – OFFLINE แบบไร้รอยต่อ
  • และทั้ง 5 จุดแข็งนี้คือหัวใจของรีเทลของโลกแห่งอนาคตที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป มีศักยภาพความพร้อมในเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างนี้อย่างแท้จริง

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี และออมนิชาแนล เข้ามามีบทบาทมากขึ้น จนกลายเป็นกลุยทธ์ที่สำคัญสำหรับธุรกิจรีเทลที่เชื่อมต่อห้างสรรพสินค้า – ออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เกิดประสบการณ์แห่งการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ ซึ่ง M ONLINE ถูกออกแบบมาจากความเข้าใจลูกค้าในเชิงลึก (Customer Insight) และความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ (CUSTOMER CENTRIC) โดยมี Big Data จาก Customer Platform และเทคโนโลยี AI (ARTIFICIAL INTELLIGENCE) ที่ทางเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ทุ่มทุนในการพัฒนาไปกว่า 100 ล้านบาท ทำให้เราได้ข้อมูลจากลูกค้าที่มาเดินในห้างสรรพสินค้าของเราทุกสาขาวันละ 1 ล้านคน และยังมีฐานข้อมูลจากสมาชิกบัตร M Card กว่า 4.5 ล้านคน สมาชิกบัตร SCB M กว่า 8 แสนคน ตลอดจนฐานข้อมูลลูกค้าจากกว่า 13 พันธมิตรบัตรเครดิตอีกจำนวนหลายล้านใบ

Big Data ดังกล่าวช่วยให้เราเข้าใจ OMNICHANNEL ECOSYSTEM และ CUSTOMER SHOPPING JOURNEY อย่างลึกซึ้ง และนำข้อมูลที่ได้นั้น มาคัดสรรค์สินค้าและสร้างสรรค์บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังสร้าง Social Lifestyle Content รวมถึงการดีไซน์ User Interface สุดเก๋ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นจุดแข็งของเรา ที่ Marketplace ไม่มี และจากข้อได้เปรียบนี้จะทำให้เราเป็นผู้นำของออมนิชาแนลในตลาด ที่แตกต่าง รู้ใจ เข้าถึง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง โดยหลังเปิดตัวจากนี้ จะทำการตลาดอัดแน่นทุกช่องทางทั้งสื่อออนไลน์ ออฟไลน์ และกิจกรรมต่างๆ โดยได้ตั้งเป้าทราฟฟิคคนเข้าเว็บที่ 20 ล้านเพจวิวภายในปีนี้

3 กลยุทธ์ ปั้น M ONLINE สู่การเป็นอันดับหนึ่งของออมนิชาแนล แพล็ตฟอร์มที่ดีที่สุด

  • CUSTOMER CENTRIC รู้จักและรู้ใจลูกค้าในเชิงลึกอย่างแท้จริง ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร (Customer Lifecycle) กำลังอยู่ในอารมณ์ที่ต้องการซื้อของจากช่องทางไหน (Customer Experience – CX) และลูกค้าให้คุณค่าของสิ่งไหนเป็นสำคัญ (Customer Value) ทำให้สามารถยกระดับการเลือกสินค้าได้อย่างแตกต่าง โดนใจ และสร้างสรรค์บริการที่สะดวกสบาย เลือกได้ ง่ายต่อการช้อป รวมถึงการออกแบบเว็บไซต์ที่เก๋ไก๋ พร้อมสอดแทรกคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ให้ลูกค้าไม่ตกเทรนด์
  • PARTNER CENTRIC 
    • ให้ความสำคัญกับพันธมิตรเหนืออื่นใด ในการก้าวไปข้างหน้าร่วมกันแบบ Win-Win ซึ่งเป็นการร่วมมือกันในเรื่องของข้อมูล ระบบ และช่องทางกระจายสินค้าที่เพิ่มขึ้น 
    • ให้ความสำคัญกับพนักงาน ให้เข้าถึงข้อมูลแบบไร้ขีดจำกัด ด้วยการพัฒนาระบบ เชื่อมโยงข้อมูล ONLINE และ OFFLINE เข้าด้วยกัน เป็น Super Platform ซึ่งทำให้พนักงานให้บริการลูกค้าได้อย่างราบรื่น
  • CONTENT CENTRIC เน้นการสื่อสารที่นำเสนอเทรนด์ สินค้า บริการ และโปรโมชั่น อย่างสร้างสรรค์ในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์ ออฟไลน์ กิจกรรมการช้อปในรูปแบบใหม่ เพื่อเชื่อมโยงแบรนด์กับลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพของประสบการณ์ช้อปปิ้งให้ WOW ในทุกมิติ