

- มั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัวดี ส่งผลให้ยอดขาย SSSG เติบโต
- เน้นปูพรมขยายธุรกิจครอบคลุมทุกเซกเม้นต์ แฟชั่น-ฟู้ด-ฮาร์ดไลน์-พร็อพเพอร์ตี้
- พร้อมสร้างกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจร
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่าบริษัทฯ มั่นใจเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ CRC Retailligence ที่ได้ประกาศไว้ว่า จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยล่าสุดยอดขายมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และในเดือน ม.ค. 2565 Same Store Sales Growth (SSSG) มีการเติบโตเป็นเลข 2 หลัก ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี ยอดขายออมนิแชแนลโดยรวม ก็ยังเติบโต 2 หลัก เช่นกัน
ทั้งนี้ถึงแม้ว่าจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในห้างและร้านค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยที่กลุ่มธุรกิจแฟชั่นพลิกกลับมาเติบโตอย่างเห็นได้ชัด

นายญนน์ กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ในประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้บริการในศูนย์การค้าคิดเป็น 85% ของระดับปกติก่อนช่วงการเกิดโควิด-19 และยังรักษาระดับ Occupancy Rate ได้มากกว่า 90% พร้อมเดินหน้าประเดิมเปิดศูนย์การค้า โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ รูปแบบใหม่ สาขาบ้านฉาง จังหวัดระยอง ในวันที่ 3 มี.ค.นี้ และเปิด GO! ไลฟ์สไตล์มอลล์ เมืองหล่าวกาย (Lao Cai) ประเทศเวียดนามในเดือนเม.ย.2565 รวมถึงศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เพิ่มอีก 2 แห่ง ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยทั้งหมดบริษัทฯ จะมีศูนย์การค้า 73 แห่ง ภายในสิ้นปี 2565 สำหรับธุรกิจฮาร์ดไลน์จะมีการขยายสาขาไทวัสดุเพิ่มอีก 10 แห่ง โดยจะเปิดสาขาแรกที่จังหวัดชัยภูมิ ในวันที่ 17 มี.ค.2565 นี้เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำบนแพลตฟอร์มออมนิแชแนลของธุรกิจฮาร์ดไลน์ในไทย

“เซ็นทรัล รีเทล มีความมั่นใจและยังคงอัดแผนลงทุนเพื่อขยายธุรกิจที่มีอยู่ และเพิ่มธุรกิจใหม่ๆ รวมทั้งมีแผนที่จะร่วมมือกับผู้นำในกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ และเพิ่มแผน Mergers & Acquisitions ทั้งในไทยและเวียดนาม มากขึ้น นอกจากนั้นยังคงตั้งเป้าที่จะนำ MEB ผู้นำในธุรกิจ E-Book และเว็บไซต์อ่านนิยายของไทยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปีนี้โดยบริษัทฯมุ่งเน้นที่จะนำธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล และพันธมิตรทั้งหมด สู่การเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน” นายญนน์กล่าว