

- พาณิชย์ยันมีเสถียรภาพ-เหมาะสมกับภาวะศก.
- ส่วนปี63ตั้งเป้าโต0.8%ยันช่วยหนุนศก.โตต่อเนื่อง
- ย้ำบาทแข็ง-ขึ้นค่าแรง-ภัยแล้งไม่กระทบเป้าหมาย
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) ว่า เดือนธ.ค.62 ดัชนีอยู่ที่ 102.62 เพิ่มขึ้น 0.01% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.62 และเพิ่มขึ้น 0.87% เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.61 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันในอัตราสูงที่สุดในรอบ 5 เดือน หลังจาก ชะลอตัวลงต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนส.ค.62 ส่วนค่าดัชนีเฉลี่ยทั้งปี 62 เพิ่มขึ้น 0.71% เมื่อเทียบกับปี 61 ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานที่หักราคาอาหารสด และพลังงานออกจากการคำนวณ เดือนธ.ค.62 อยู่ที่ 102.80 เพิ่มขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.62 และเพิ่มขึ้น 0.49% เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.61 ขณะที่อัตราเฉลี่ยทั้งปี 62 เพิ่มขึ้น 0.52% เมื่อเทียบกับปี 61

”เงินเฟ้อเดือนธ.ค.62 ที่เพิ่มขึ้น 0.87% มาจากราคาอาหารสดสูงขึ้น และราคาพลังงานหดตัวน้อยที่สุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่ราคาหมวดอื่นๆ ยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประกอบกับ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ โดยเฉพาะชิม ช้อป ใช้ ที่ช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋า ทำให้ประชาชนใช้จ่ายมากขึ้น ส่วนเงินเฟ้อทั้งปี 62 ที่เพิ่มขึ้น 0.71% ยังอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ และอยู่ในกรอบเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.70-1.00%”
น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวต่อถึงเป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไปปี 63 ว่า คาดขยายตัว 0.40-1.20% โดยมีค่ากลางที่ 0.80% ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้สมมติฐานที่เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.7-3.7%, ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 58-68 เหรียญสหรัฐบาร์เรล แต่อาจปรับประมาณการใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 60-70 เหรียญฯ/บาร์เรล และค่าเงินบาทอยู่ที่ 30-32 บาท/เหรียญฯ
สำหรับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมากนั้น หากมองในแง่ผู้บริโภคจะรู้สึกพอใจ เพราะทำให้ราคาน้ำมันไม่สูงขึ้น ขณะที่วัตถุดิบนำเข้าเพื่อนำมาผลิตสินค้าในประเทศ ก็ไม่สูงขึ้นด้วย จึงไม่มีแรงกดดันทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น แต่หากมองในแง่ผู้ผลิตและผู้ส่งออก จะทำให้รายได้จากการส่งออกลดลง โดยเฉพาะภาคเกษตร และกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร ที่จะมีเงินใช้จ่ายลดลง ซึ่งไม่ใช่แรงกดดันให้เงินเฟ้อสูงขึ้นอีกเช่นกัน ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 ไม่มีผลทำให้ราคาสินค้าปรับขึ้น โดยกรมการค้าภายในแจ้งว่า ยังไม่มีผู้ผลิตสินค้ารายใดขอปรับขึ้นราคาขายสินค้าจากค่าแรงปรับขึ้น จึงยังไม่มีผลทำให้เงินเฟ้อปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปี 63 สนค.จะแถลงข่าวเงินเฟ้อทุกวันที่ 5 แต่ไม่เกินวันที่ 7 ของเดือน จากเดิมทุกวันที่ 1 ของเดือน เพื่อให้มีเวลาวิเคราะห์ตัวเลขมากขึ้น