เข้าสู่ฤดูหนาว…“หมอยง” ชี้โควิด-19 จะกลับมาพีคอีกครั้งตามฤดูกาล



  • เผยแต่ก็จะไม่มากเท่าในฤดูฝนที่ผ่านมา
  • ห่วงกลุ่มเปราะบางมีโรคประจำตัว โรคไตเรื้อรังที่ต้องฟอกไต โรคปอด โรคหัวใจ หรือ 608
  • ลั่นการให้วัคซีน มีความจำเป็นในกลุ่มเปราะบาง 608 รวมทั้งเด็กเล็ก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 พ.ย.65) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก : Yong Poovorawan โดยมีเนื้อหากล่าวถึงเรื่อง “โควิด-19” ดังนี้…

โควิด 19 เมื่อโรค เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล

ยง ภู่วรวรรณ

21 พฤศจิกายน 2565

เมื่อนักเรียนเปิดเทอม และเข้าสู่ฤดูหนาว โรค covid-19 จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ในพีคที่ 2  แต่ก็จะไม่มากเท่าในฤดูฝนที่ผ่านมา หรือพีคแรก และก็จะลดลงหลังเดือนกุมภาพันธ์

การศึกษาของศูนย์ไวรัสที่ทำอยู่ ร่วมกับจังหวัดชลบุรี พบว่าประชากรผู้ใหญ่ที่อายุเกิน 15 ปีไปแล้ว เกือบทั้งหมดหรือ98-99 เปอร์เซ็นต์ มีภูมิต้านทานที่ตรวจพบได้ จากการฉีดวัคซีนและหรือติดเชื้อ ยกเว้นในกลุ่มที่อายุน้อยกว่า 5 ปี มีถึง 35% ที่ยังไม่มีภูมิต้านทาน ต่อเชื้อโควิค 19  หรือไม่เคยติดเชื้อมาก่อนนั่นเอง

สถานการณ์โดยทั่วไป จะไม่รุนแรง เพราะมีภูมิต้านทาน ยกเว้นในกลุ่มเปราะบางมีโรคประจำตัว  เช่น โรคไตเรื้อรังที่ต้องฟอกไต โรคปอดโรคหัวใจหรือ 608  ที่จะทำให้โรครุนแรง เช่นเดียวกันกับไข้หวัดใหญ่

แม้ว่ามีรายงาน การกลายพันธุ์ของไวรัส ในที่ต่างๆทั่วโลก แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานใด ที่พบว่าไวรัสที่กลายพันธุ์ เพิ่มความรุนแรงของโรค การกลายพันธุ์ส่วนใหญ่จะทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำได้ 

สภาพทั่วไป ทุกสิ่งใกล้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ด้วยการอยู่กับโรคโควิด 19 ที่เหมือนกับโรคทางเดินหายใจโรคหนึ่งประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานหรือการติดเชื้อ การติดเชื้อในประชากรขณะนี้อยู่ที่ประมาณร้อยละ 70 ประชากรส่วนใหญ่ได้ทั้งวัคซีนและการติดเชื้อ การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทุกวันนี้ น้อยกว่าการติดเชื้อในธรรมชาติ การติดเชื้อก็เป็นการกระตุ้นสร้างภูมิต้านทานให้กับประชากรไปพร้อมกัน 

การติดเชื้อซ้ำเกิดขึ้นได้ แต่โอกาสติดเชื้อจะน้อยกว่าคนที่ไม่เคยติดเชื้อ และหรือไม่เคยฉีดวัคซีนเลย เมื่อสัมผัสโรคโควิด 19 

ทุกชีวิตต้องเดินหน้า การเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่ภาวะปกติ ก็คงจะค่อยเป็นค่อยไป เช่นการใส่หน้ากากอนามัย ขณะนี้ถ้าอยู่ในกลุ่มคนจำนวนมาก ควรใส่หน้ากากอนามัย แต่ถ้าอยู่ในที่โล่งแจ้ง สวนสาธารณะ ชายทะเล ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่ ให้พิจารณาตามสถานการณ์ และความสมัครใจ 

สิ่งที่จะต้องทำอย่างยิ่งคือ ผู้ป่วย หรือเมื่อป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ ควรใส่หน้ากากอนามัยทุกราย ไม่ว่าโรคทางเดินหายใจนั้นจะเป็น covid หรือไม่ เป็นแนวทางปฏิบัติที่ควรทำ เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่กระจายโรคไปสู่ผู้อื่น 

พบผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น ความรุนแรงของโรคก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น และต่อไปก็จะเหมือนโรคทางเดินหายใจโรคหนึ่ง ที่พบได้ตามฤดูกาล 

การให้วัคซีนป้องกันโรค มีความจำเป็นอย่างยิ่งในกลุ่มเปราะบาง 608 รวมทั้งเด็กเล็ก การให้วัคซีนยังเป็นไปด้วยความสมัครใจ