เกษตรกรเฮ!กรมส่งเสริมการเกษตรขยายเวลาขึ้น-ปรับปรุงทะเบียนได้ถึง 15 ก.ค. เหตุให้โอกาส หลังพบเพาะปลูกไม่ทัน

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ได้ขยายเวลาการขึ้นและปรับปรุงทะเบียนของเกษตรกรที่จะเพาะปลูกฤดูกาลผลิต 2563/2564 แต่ยังไม่สามารถเพาะปลูกได้ เนื่องจากต้องรอฝนตกต้องตามฤดูกาล ทั้งนี้ ระเบียบการขึ้นและปรับปรุงทะเบียนของกรมส่งเสริมการเกษตรกำหนดว่าเกษตรกรรายใหม่ที่จะมาขึ้นทะเบียนและเกษตรกรรายเดิมจะมาปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรได้ต้องหลังเพาะปลูกแล้ว 15 วัน ดังนั้น จึงมีเกษตรกรส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นจำนวนไม่มากที่ยังไม่ได้ปลูกพืชหรือปลูกแล้ว เมื่อถึงวันสุดท้ายของการขึ้นและปรับปรุงทะเบียน คือ วันที่ 15 พฤษภาคม แต่ระยะเวลาการปลูกพืชไม่ถึง 15 วันตามเกณฑ์จะขึ้นทะเบียนไม่ได้ จึงกังวลว่าจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรจึงเพิ่มกลุ่มเป้าหมายเกษตรกร กลุ่มที่ 3 ได้แก่ เกษตรกรที่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรมีข้อมูลอยู่ในฐานทะเบียนเกษตรกรแล้ว แต่ไม่ได้ปรับปรุงข้อมูลปีการผลิต 2562/2563 และเกษตรกรที่ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกร  โดยให้มารับแบบ ทบก.01 ไว้ก่อน ภายใน 15 พฤษภาคม จากนั้นเมื่อเกษตรกรปลูกพืชแล้วไม่น้อยกว่า 15 วัน จึงแจ้งยืนยันที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะบันทึกตรวจสอบตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรต่อไป

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า ทางกรมส่งเสริมการเกษตรจะส่งรายชื่อเกษตรกรที่มาขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเป็นกลุ่มที่ 3 ให้ สศก. ซึ่งเป็นนายทะเบียน จากนั้นจะส่งรายชื่อให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ไม่ให้ซ้ำซ้อนกับการรับสิทธิ์อื่น ๆ ซึ่งมั่นใจว่าใช้เวลาไม่นาน เมื่อตรวจทานสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะจ่ายให้เกษตรกรรายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3  เดือน ผ่านบัญชีธนาคารที่เกษตรกรแจ้งไว้ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมแน่นอน 

“ขอให้เกษตรกรคลายความกังวลใจ เร่งรับแบบ ทบก.01 ที่อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือที่สำนักงานเกษตรกรอำเภอได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ จากนั้นเมื่อเพาะปลูกแล้ว 15 วันให้แจ้งยืนยันต่อ อกม. และเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรกรอำเภออีกครั้ง ซึ่งจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว” นายระพีภัทร์ กล่าว