กรมการจัดหางาน ยกเลิกชะลอส่งแรงงานไทยไปทำงานอิสราเอล

กรมการจัดหางาน
กรมการจัดหางาน

กรมการจัดหางาน ยกเลิกชะลอจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่อิสราเอล ย้ำแรงงานไทยจะถูกส่งไปทำงานในรัฐอิสราเอล เฉพาะพื้นที่ปลอดภัย เผยปัจจุบันมีแรงงานไทยแจ้งความต้องการไปทำงานแล้วมากถึง 30,186 คน

  • ส่งไปเฉพาะพื้นที่ปลอดภัย
  • แรงงานไทยแจ้งความต้องการ 30,186 คน

วันที่ 11 พฤษภาคม 2667 นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดี กรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการจัดหางานได้ประกาศ “ยกเลิกการชะลอการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในรัฐอิสราเอลทุกวิธีการเดินทาง” โดยมีเงื่อนไขว่า แรงงานไทยจะเดินทางไปทำงานในพื้นที่ปลอดภัย (พื้นที่สีเขียว) ตามที่ กองบัญชาการแนวหน้าของรัฐอิสราเอลกำหนดเท่านั้น

โดยกรมการจัดหางานได้ติดตาม และประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐอิสราเอล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการตัดสินใจในครั้งนี้ เป็นผลมาจากสถานเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอล ประจำประเทศไทย ได้ยืนยัน และเน้นย้ำถึงคำมั่นของรัฐอิสราเอลว่า แรงงานไทยจะถูกส่งไปทำงานในรัฐอิสราเอล เฉพาะพื้นที่ปลอดภัยเท่านั้น

พร้อมกับเตรียมการรองรับ หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินในกรณีต่าง ๆ ทั้งด้านแผนช่วยเหลือ แผนอพยพ รวมถึงกรณีปิดน่านฟ้า/เปิดน่านฟ้า ประกอบกับปัจจุบันมีแรงงานไทยแจ้งความต้องการเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอล มากถึง 30,186 คน และอยู่ระหว่างดำเนินการตามกระบวนการจัดส่งภายใต้โครงการความร่วมมือไทย – อิสราเอล เพื่อการจัดหางาน (Thailand – Israel Cooperation on the Placement of Workers : TIC) ถึง 25,585 คน

ซึ่งเมื่อคำนึงถึงความปลอดภัย โอกาสในการทำงานและรายได้ที่สูงของแรงงานไทยแล้ว จึงพิจารณายกเลิกการชะลอการจัดส่งไปทำงานในรัฐอิสราเอล

นายสมชาย กล่าวว่า ล่าสุดหน่วยงานด้านประชากรและตรวจคนเข้าเมืองของรัฐอิสราเอล (PIBA) ได้แจ้งโควตาจ้างแรงงานไทยไปทำงานภาคเกษตร ช่วงครึ่งปีหลัง (มิถุนายน-ธันวาคม) มาแล้วจำนวน 5,000 คน โดยแรงงานกลุ่มแรกที่จะได้เดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอลโดยรัฐจัดส่ง จะเป็นกลุ่มแรงงานไทยที่ถูกชะลอการเดินทางเมื่อเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2566 จำนวน 1,200 คน เป็นลำดับแรก

และจากนี้จะเชิญหน่วยงานด้านการทหารมาให้ความรู้เรื่องแนวปฏิบัติ/รับมือ สถานการณ์ฉุกเฉิน/ภาวะสงคราม แก่คนหางานก่อนเดินทางไปทำงานรัฐอิสราเอล และเชิญบริษัทจัดหางานที่จัดส่งแรงงานไปทำงานในรัฐอิสราเอล มารับทราบแนวปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อแรงงานไทยมากที่สุด

ทั้งนี้ โปรดติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดจากกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ผ่านเว็บไซต์ doe.go.th/overseas เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง หรือสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ

โทร. 0 2245 0978 และ 0 2245 9430 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

สำหรับเหตุการณ์ในประเทศอิสราเอล ยังคงมีการสู้รบ โดย

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศกร้าวว่าอิสราเอลพร้อม “สู้ลำพัง” ในสงครามฉนวนกาซา หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ขู่หยุดส่งอาวุธบางประเภทให้หากเดินหน้าบุกเมืองราฟาห์ และบอกด้วยว่า “ไบเดนทำสิ่งผิดพลาดแล้ว”

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า อิสราเอลพร้อมยืนหยัดโดยลำพังและหากจำเป็นก็จะต่อสู้ด้วยสองมืออย่างสุดกำลัง พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่าด้วยจิตวิญญาณที่เข้มแข็ง อิสราเอลจะชนะสงครามกวาดล้างฮามาสในฉนวนกาซา โดยเปรียบเทียบกับสมัยที่อิสราเอลไม่มีอาวุธ แต่สามารถชนะสงครามอาหรับ-อิสราเอล ที่นำไปสู่การประกาศอิสรภาพเมื่อ 76 ปีที่แล้ว

ถ้อยแถลงของเนทันยาฮูมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันพุธ โดยยืนยันชัดเจนว่าเขาจะหยุดจัดส่งอาวุธบางรายการให้อิสราเอล หากอิสราเอลยังเดินหน้าปฏิบัติการสู้รบครั้งใหญ่ในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ที่มีชาวปาเลสไตน์อาศัยราว 1.4 ล้านคน

ก่อนหน้านั้น สื่อรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ระงับการส่งระเบิด ให้อิสราเอลในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากกังวลว่า จะถูกนำไปใช้ในการบุกราฟาห์ และลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหม ยืนยันเรื่องนี้ ตอนตอบข้อซักถามในสภาคองเกรส

นักวิเคราะห์ตั้งข้อสงสัยว่า คำขู่ของไบเดน และการระงับส่งอาวุธ จะส่งผลกระทบต่อสงครามในทันทีหรือไม่ ขณะที่โฆษกกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า กองทัพมีอาวุธมากพอ ให้ปฏิบัติการในราฟาห์ได้เสร็จสิ้น และบอกด้วยว่าอิสราเอล มีผลประโยชน์ของตัวเอง และเข้าใจผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เช่นกัน

เนทันยาฮูยังให้สัมภาษณ์รายการทอล์กโชว์ของสหรัฐฯ ที่จะออกอากาศในคืนวันพฤหัสบดีด้วยว่า “ไบเดนทำสิ่งผิดพลาด” หลังระงับการส่งระเบิดให้อิสราเอล แต่ยังแสดงความหวังว่าสองฝ่าย จะสามารถก้าวข้ามความเห็นต่างได้

ขณะที่สหประชาชาติประเมินว่า มีประชาชนมากกว่า 80,000 คน อพยพออกจากราฟาห์นับตั้งแต่วันจันทร์ ที่อิสราเอลโหมโจมตีทางอากาศช่วงกลางดึก และส่งรถถังเข้าเมืองพร้อมกับยึดจุดผ่านแดนในเช้ามืดวันอังคาร

ล่าสุดรถถังและเครื่องบินรบอิสราเอลยังคงโจมตีเมืองราฟาห์ในวันพฤหัสบดี โดยกองทัพบอกว่าเป็นเพียงการบุกโจมตีอย่างจำกัดเพื่อจัดการนักรบฮามาสที่หลงเหลืออยู่ แต่ยังไม่ตัดความเป็นไปได้เรื่องการเปิดฉากสู้รบเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน องค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) ได้ประกาศปิดสำนักงานใหญ่ของทางหน่วยงานในเยรูซาเลมตะวันออกเป็นการชั่วคราว หลังประชาชนชาวอิสราเอล ได้จุดไฟเผาบริเวณด้านนอกอาคารสำนักงานใหญ่ของทางหน่วยงาน 2 ครั้งในช่วงค่ำวันที่ 9 พฤษภาคม โดยถือเป็นการโจมตีใส่อาคารของ UNRWA ครั้งที่ 2 ในรอบไม่กี่วัน

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่ของ UNRWA ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่สร้างความเสียหาย แก่บริเวณด้านนอกของสำนักงานใหญ่อย่างหนัก และเจ้าหน้าที่ UNRWA ต้องมาดับไฟด้วยตนเอง นายฟิลิปเป้ ลาซซารินี หัวหน้าองค์กร UNRWA กล่าวว่า เหตุการณ์วางเพลิงครั้งล่าสุดนี้ ถือเป็นอีกครั้ง ที่ชีวิตของเจ้าหน้าที่ยูเอ็นตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างร้ายแรง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ขาดแคลนแรงงานไทย อิสราเอลเผชิญวิกฤตภาคการเกษตรครั้งใหญ่

: ไฟเขียว! กรมการจัดหางาน ยกเลิกชะลอจัดส่งแรงงานไทยไปทำงาน “อิสราเอล”