“อุ๊งอิ๊ง”ลั่น! เพื่อไทยจะก้าวข้ามสนามอารมณ์​ ด้วยการทำงานเต็มที่



“อุ๊งอิ๊ง” ลั่น! ถ้าเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว จะทำเต็มที่ เพื่อแก้ปัญหาประชาชน และจะก้าวข้ามผ่านสนามอารมณ์นี้ให้ได้ โดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง

  • ยืนยัน “ทักษิณ” กลับไทย 22 ส.ค.
  • ไม่เกี่ยวโหวตนายกฯ -ไม่มีดีลผู้มีอำนาจ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ว่า พรรคเพื่อไทยก็พยายามเต็มที่ และมีมติเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความมั่นใจ และอยากตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพื่อให้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล นำนโยบายของพรรคไปแก้ปัญหาให้ประชาชน

เมื่อถามว่า หากนายเศรษฐา ไม่ผ่านในการโหวตเลือกครั้งนี้ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า อยากให้โฟกัสที่นายเศรษฐาก่อน และยังไม่ต้องโฟกัสมาที่ตนเอง เพราะหากโฟกัสหลายจุดก็จะไม่มั่นคง ดังนั้นเราจึงทำเต็มที่ในการเสนอชื่อนายเศรษฐา หวังว่าจะสำเร็จ และตั้งรัฐบาลให้ประชาชนได้

เมื่อถามถึงกระแสดราม่าโจมตีพรรคเพื่อไทยการนำข้อความที่แกนนำพรรคได้ประกาศในช่วงหาเสียงว่าจะไม่จับมือกับพรรค 2 ลุง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า วันนั้นเขาบอกว่าเราไม่มีความชัดเจนในการหาเสียง ซึ่งเราพยายามทำโพลทุกอย่างเพื่อให้แลนด์สไลด์ แต่เราแลนด์สไลด์ไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นรัฐธรรมนูญปี 60 ยังมีเรื่องของ สว.อยู่ ซึ่งที่ผ่านมาเราเคยชนะเป็นอันดับ 1 แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เราจึงทราบดีโอกาสการจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จเกิดขึ้นได้ บางคนอาจมีการแสดงที่ชัดเจนและไม่ชัดเจน แต่เราก็แสดงความตั้งใจ แต่วันนี้เมื่อไม่เป็นแบบที่เราคิด ไม่เป็นไปตามที่แพลนไว้ เราจึงต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้ประเทศไปต่อ

“แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยมีต้นทุนที่ต้องจ่าย นั่นคือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน เราขอน้อมรับ และขอโทษที่ทำให้หลายคนผิดหวังและเสียใจ แต่ถ้าเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วจะทำเต็มที่ เพื่อแก้ปัญหาประชาชนที่มีอยู่มากมาย และจะก้าวข้ามผ่านสนามอารมณ์นี้ให้ได้ โดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง” นางสาวแพทองธาร กล่าว

เมื่อถามถึงข้อครหาเกี่ยวกับตัว นายเศรษฐา ได้มีการเตรียมแผนสำรองไว้หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เราเช็คตามกฎหมายทุกอย่าง หากฟังจากคนที่ออกมาพูด แต่ก็ไม่มีหลักฐาน ขณะที่นายเศรษฐาได้นำหลักฐานออกมาชี้แจงแล้วซึ่งก็มีความชัดเจน ซึ่งบริษัทของนายเศรษฐาก็อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และสามารถตรวจสอบได้ เพราะฉะนั้นจึงเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร จึงอยากให้พิจารณาข้อมูลเป็นตัวสำคัญก่อนตัดสินใจ

เมื่อถามว่า สนใจตำแหน่งใน ครม.หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ยังเน้นทำงานพรรค แต่ตามที่ปรากฎในสื่อก็มอบตำแหน่งให้หลายตำแหน่ง ก็ขอบพระคุณมากทั้งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและตำแหน่งรัฐมนตรี ก็รู้สึกดีใจมาก

กำหนดการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี​ ในวันที่ 22 สิงหาคมว่า ในช่วงเช้าได้เดินทางไปทำบุญวันเกิดล่วงหน้า มีเพื่อนสนิทและคนใกล้ชิด ซึ่งก็รู้สึกสบายใจ สำหรับการเดินทางกลับประเทศไทยของอดีตนายกฯ ทักษิณ นั้นถือเป็นของขวัญของทุกคนในบ้าน และเมื่อกลับมาใกล้วันเกิดตนก็ถือว่าเป็นของขวัญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงความปลอดภัยของอดีตนายกฯ ทักษิณ หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ทุกอย่างทั้งการขึ้นเครื่องบิน สุขภาพ ซึ่งตนอยากให้มีสุขภาพที่แข็งแรง และเมื่อกลับมาถึง คุณพ่อก็ยังไม่ได้เข้าบ้าน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีนักวิชาการวิเคราะห์ว่าการกลับมาของ อดีตนายกฯ ทักษิณครั้งนี้ มองเป็นตัวประกันทางการเมือง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เข้าใจว่าคุณพ่อถูกแยกออกจากการเมืองได้ยาก แต่การกลับมาของคุณพ่อก็เป็นการกลับมาของประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่มีสิทธิ์กลับมาในประเทศบ้านเกิด ตอนนี้ผ่านไป 17 ปีแล้ว ซึ่งทุกครั้งที่คุยโทรศัพท์กันก็จะพูดเสมอว่าหลาน 7 คนแล้วอยากกลับมาเลี้ยงหลาน แต่ยืนยันว่าไม่ได้คิดถึงเรื่องของการเมืองหรือจะมาเป็นตัวประกัน คิดเพียงว่ากลับมาแล้วปลอดภัยรอวันกลับมาบ้านเพื่ออยู่กับลูกหลาน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวบางส่วนกังวลว่าอาจถูกหลอก นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า คุณพ่อไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปีแล้วน่าจะมีหลายข้อมูลที่เคยได้รับ ทั้งผิดและถูกซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ 17 ปีผ่านอะไรมาเยอะมาก และการกลับมาครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของท่านเอง ไม่มีใครหลอกและท่านก็ไม่ได้หลอกใคร การกลับมาครั้งนี้เป็นการตกลงกับครอบครัว แล้วก็ตัดสินใจกลับมา

เมื่อถามว่า มีการประเมินถึงขั้นว่าหาก นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ก็จะเสนอชื่อ นางสาวแพทองธาร เพื่อใช้เป็นตัวประกันทางการเมืองนั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า อยากให้มองการเมืองสร้างสรรค์ การที่คุณพ่อกลับมา เพราะอยากอยู่กับครอบครัว ส่วนเรื่องการเมืองก็ขอให้แบ่งเป็นเรื่องการเมืองของพรรคเพื่อไทย การกลับมาของคุณพ่อไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือพรรคเพื่อไทย คดีความของคุณพ่อก็ไม่เกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ดังนั้น อยากให้แยกเรื่องนี้ออกจากกันให้ชัดเจน

เมื่อถามว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่เกี่ยวกันเพราะวันที่อดีตนายกฯ ทักษิณเดินทางกลับคือวันเดียวกับที่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ยืนยันว่า “ไม่ใช่ความเชื่อมโยงทางการเมืองใดๆ เลย เพราะก่อนหน้านั้น คุณพ่ออยากจะกลับมา วันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งตรงกับวันหยุดจึงเปลี่ยนวัน ก็ยังได้ช่วยดูปฏิทินให้ว่าวันไหนฤกษ์ดี จนมาได้วันที่ 10 สิงหาคม ตามที่ประกาศไปตอนแรก แต่ปรากฏว่าการเดินทางไปตรวจสุขภาพ ไม่ได้อยู่ในประเทศเดียวกัน และพบว่ามีค่าสุขภาพบางตัวที่ต้อง Follow up จากนั้นจึงต้องหาฤกษ์ดีวันใหม่ ก็มาได้วันที่ 22 สิงหาคม และทางครอบครัวก็รู้กันก่อนที่จะมีการประกาศวันโหวตนายกรัฐมนตรีอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่า กำหนดเดินทางกลับต้องดูฤกษ์ด้วยหรือ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ต้องดูนิดนึง ก็ดูไว้ เพราะทุกคนอยากให้เป็นวันที่ดี พร้อมยืนยันว่า “ไม่มีการเลื่อนกลับอีกแล้ว 22 สิงหาคมแน่นอน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดีลกับผู้มีอำนาจจบแล้วใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวยืนยันว่า “ไม่ได้ดีลกับใครเลยค่ะ” พร้อมกล่าวว่า เมื่ออดีตนายกฯ ทักษิณ จะเดินทางกลับมาถึงสนามบินดอนเมืองด้วยเคลื่อนบินส่วนตัว ในเวลา 09.00 น. โดยมีครอบครัว​ไปรอรับ จากนั้นคงเดินทางไปที่ศาลทันที จะไม่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

เมื่อถามว่า ทางครอบครัวได้มีการดำเนินการขอพระราชทาน​อภัยโทษไว้หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “ต้องถามคุณพ่อก่อนว่า จะดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะทางครอบครัวเคารพการตัดสินใจของคุณพ่อ เดี๋ยวก็คงจะทราบกัน” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “ยังค่ะ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งครอบครัวได้ประเมินเรื่องการที่อดีตนายกฯ ทักษิณ จะโดนลงโทษหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เรื่องคดีขอยังไม่พูดถึง เดี๋ยวจะมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อน แต่ก็ยืนยันว่าจะดูอย่างละเอียด

ผู้สื่อข่าวถามถึงสุขภาพของอดีตนายกฯ ทักษิณ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า คุณพ่อตรวจสุขภาพทุกปี แต่บางครั้งอาจจะมีปัญหาบ้าง ดังนั้นก็ต้องคอยติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะตอนนี้อายุ 74 ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาก็แข็งแรง ระหว่างอยู่ต่างประเทศก็มีการผ่าตัดบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า อดีตนายกฯ ทักษิณเดินทางกลับมาจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและรับโทษ นางสาวแพทองธาร ตอบว่า พร้อมยอมรับ เพราะเป็นการตัดสินใจของคุณพ่อ ถ้าคุณพ่อยอมรับได้ครอบครัวก็ซัพพอร์ตเต็มที่