“อีคอนไทย”วอนรัฐทบทวนค่าแรง 400 บาท มอง “ฟรีวีซ่า”ดันจีนไม่ขึ้น

อีคอนไทย”วอนรัฐทบทวนค่าแรง 400 บาท บางบริษัทรายจ่ายเพิ่มขึ้นกว่า 1.8-2 ล้านบาทต่อปีชี้ฟรีวีซ่า”ดันนักท่องเที่ยวจีนไม่ขึ้นเหตุเศรษฐกิจซบเซา แนะผุดมาตรการช่วยกลุ่มเปราะบาง

  • บางบริษัทรายจ่ายเพิ่มขึ้นกว่า 2 ล้านบาทต่อปี
  • “ฟรีวีซ่า”ดันนักท่องเที่ยวจีนไม่ขึ้นเหตุเศรษฐกิจซบเซา
  • แนะผุดมาตรการช่วยกลุ่มเปราะบาง

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเริ่มต้น 400 บาทต่อวัน ว่า เรื่องค่าจ้างขั้นต่ำเริ่มต้น 400 บาทต่อวัน จากเป้าหมาย 600 บาทต่อวันในปี 2570 นั้น อยากให้รัฐบาลทบทวนอีกครั้งว่าสมควรหรือไม่ เพราะปัจจุบันค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล อยู่ที่ 353 บาทต่อคน หากในปี 2567 มีการปรับค่าจ้างจำนวนดังกล่าว จะส่งผลให้นายจ้างมีภาระเพิ่มขึ้น 47 บาทต่อคน หากบางบริษัทจ้างงาน 100 อัตรา จะส่งผลให้มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นกว่า 1.8-2 ล้านบาทต่อปี

“สถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ได้อยู่ในจุดที่จะปรับค่าจ้างสูงๆ เพราะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง โดยเฉพาะเรื่องการส่งออกที่ตอนนี้รัฐบาลยังไม่มีนโยบายแน่ชัดว่าจะจัดการกับภาคการส่งออกอย่างไร นโยบายรัฐที่ออกมาส่วนใหญ่เป็นรัฐสวัสดิการ ไม่ได้พูดถึงการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน จึงอยากให้รัฐบาลหันมาให้ความสำคัญเรื่องการอัพสกิล รีสกิล ให้กับนายจ้าง ลูกจ้าง เพิ่มขึ้น จะดีกว่าการออกนโยบายเช่นนี้” นายธนิตกล่าว

นายธนิต กล่าวว่า เรื่องการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว มติประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน ด้วยมาตรการฟรีวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยว 2 ประเทศ คือ จีน และคาซัคสถาน มองว่ามาตรการดังกล่าวอาจไม่ช่วยดันนักท่องเที่ยวให้กลับเข้ามาเที่ยวไทยมากนัก เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจในประเทศจีนแย่มาก ซบเซา ดูได้จากปัญหาเรื่องอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่เยอะขึ้น

“มองว่าเศรษฐกิจของจีนในตอนนี้ ไม่เอื้อต่อการออกมาท่องเที่ยวในต่างประเทศ ดังนั้น เป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวไทยได้กว่า 5 ล้านคนในปี 2566 ยังเป็นเรื่องที่มีความท้าทายอย่างมาก” นายธนิตกล่าว

ส่วนเรื่องนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น มองว่าเป็นนโยบายที่โปรยเงินโดยใช่เหตุ เพราะกลุ่มที่ใช้รถไฟฟ้าไม่ใช่กลุ่มเปราะบาง แต่เป็นกลุ่มคนที่มีฐานะปานกลางถึงสูง แนะนำว่ารัฐบาลควรกำหนดการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้ได้ใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น รวมถึงเรื่องการปรับจ่ายเงินเดือนข้าราชการเป็นเดือนละ 2 ครั้ง มองว่าการดำเนินการดังกล่าวจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมกำลังซื้อที่มีน้อยอยู่แล้วให้มีน้อยลงไปอีก นโยบายหรือมาตรการใดที่ทบทวนได้ ควรนำมาทบทวน ไม่ควรเหวี่ยงแห เพราะตอนนี้งบประมาณยังมีไม่มากควรเน้นมาตรการหรือโครงการที่ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางก่อน