อินเดียยันฉีดวัคซีนต้านโควิด 2 โดสต่างชนิดไม่ก่อผลข้างเคียงรุนแรง

  • หลังประชาชนฉีดแอสตราเซเนกาผสมกับไฟเซอร์ 
  • ย้ำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ชี้ชัดสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ 
  • ขณะที่ผลวิจัยออกซ์ฟอร์ดไม่ชี้ชัดมีผลต้านไวรัสดีเพียงใด 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียระบุว่า ไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดผลข้างเคียงอย่างชัดเจน ในคนที่รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั้ง 2 โดสแบบคนละชนิดกัน  

สำหรับประเด็นโต้เถียงดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากกลุ่มชาวบ้านในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย อ้างว่า ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดสที่ 2 ด้วยโควาซิน ขณะที่โดสแรกฉีดโควาชีลด์ (แอสตราเซนกา)  

ด้านวี.เค.พอล ประธานกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแห่งชาติด้านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กล่าวว่า ตามระเบียบการของเรา บอกได้ชัดเจนว่า วัคซีนทั้ง 2 โดสที่ประชาชนได้รับ ควรเป็นตัวเดียวกัน เราจึงตรวจสอบเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี แม้เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นแล้ว แต่มันไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอะไร และแม้ว่าจะได้รับวัคซีนโดสที่ 2 คนละตัวกับโดสแรก แต่ไม่มีแนวโน้มจะเกิดผลข้างเคียงสำคัญใดๆ ที่จริงแล้ว ข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ชี้ว่า แม้จะเป็นวัคซีนคนละตัวกัน แต่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้” 

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด รายงานผลเบื้องต้นของการศึกษาการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบผสม ซึ่งได้รับการเผยแพร่ในวารสารแลนเซต (Lancet) โดยชี้ว่า ผู้ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา หรือที่อินเดียเรียกว่า โควิชีลด์ เป็นโดสแรก และได้รับไฟเซอร์เป็นโดสที่ 2 จะมีผลข้างเคียงในระยะสั้นกว่าปกติ และส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง แต่การศึกษาดังกล่าว ไม่ได้แสดงให้เห็นว่า การฉีดวัคซีนแบบผสมต้านไวรัสได้ดีเพียงใด