อาเซียนถก AFMGM 2566 รักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจภูมิภาคปี’66-67 หวัง ASEN-5 โต 4.6-5.3% หนุนอินโดคุมศก.ความเจริญ



  • อาเซียนถก“AFMGM 2566”รัฐมนตรีคลังกับธนาคารกลางรวมพลังเร่งสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจ
  • คาด2ปีหน้ากลุ่มASEAN-5ยังโตต่อเนื่อง5.3-4.6%หนุนอินโดนีเซียเดินเกมรุกอาเซียนศูนย์กลางสรรค์สร้างความเจริญ
  • 3 ยุทธศาสตร์หลัก “ฟื้นฟูการสร้างใหม่-เศรษฐกิจดิจิทัล-ความยั่งยืน”

Mrs.Sri Mulyani Indrawati รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ทางกระทรวงการคลังและธนาคารกลางแห่งอินโดนีเซียได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางประเทศอาเซียน (AFMGM) ที่นูซาดูอา บาหลี อินโดนีเซีย ซึ่งมีความเชื่อจะตั้งเป้าให้อาเซียนเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่ง ครอบคลุม และยั่งยืน ดำเนินต่อเนื่อง ด้วยการเสริมสร้างศักยภาพอาเซียนตอบสนองต่อความท้าทายใหม่  ที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันและอนาคตอีก 20 ปีหน้า ซึ่งมีโอกาสในเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ดีโดยเฉพาะเศรษฐกิจกลุ่มอาเซียน-5 (ASEAN-5) ปี 2565 เติบโตรวมกัน 5.3% ปี 2566 คาดจะเติบโต 4.6% ปี2567 จะเติบโตต่อเนื่องอีก 5.6%

การจัดประชุม AFMGM สมาชิกอาเซียนเห็นชอบปี 2566 ให้อินโดนีเซียดำรงตำแหน่งประธานแผนงาน “อาเซียนเป็นศูนย์กลาง สรรค์สร้างความเจริญ : ASEAN Matters: Epicentrum of Growth” ผลักดันเชิงยุทธศาสตร์ 3 ด้านได้แก่ ด้านที่ 1 การฟื้นฟูและการสร้างใหม่ ด้านที่ 2 เศรษฐกิจดิจิทัล และ ด้านที่ 3 ความยั่งยืน

รวมทั้งสมาชิกอาเซียนตอกย้ำความสำคัญด้านความร่วมมือในการทำงานร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง เพื่อลดความเสี่ยงภัยที่อาจคุกคามเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ จึงเห็นชอบแผนงานด้านเศรษฐกิจอาเซียน (Priority Economic Deliverable หรือ PED) ของอินโดนีเซียประจำปี 2566 ได้แก่ การเตรียมพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาด แหล่งทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน ภาษีระหว่างประเทศ ความร่วมมือด้านศุลกากร การเข้าถึงบริการทางการเงินดิจิทัลสำหรับMSME และการเงินเพื่อความยั่งยืน

ส่วนผลสรุปการประชุม AFMGM ครั้งที่ 1 จะได้รายงานต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 42 เดือนพฤษภาคม 2566  เมืองลาบวน บาโจ จากนั้นจะจัดประชุม AFMGM ครั้งที่ 2 เดือนสิงหาคม 2566 ที่กรุงจาการ์ตา

ทั้งนี้ ในการประชุม AFMGM ครั้งที่ 1 เมื่อ 31 มีนาคม 2566 มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากอาเซียนเข้าร่วม 9 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย สปป.ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม พร้อมตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศ 6 แห่ง คือ ธนาคารพัฒนาเอเชีย สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคอาเซียน+3 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ คณะกรรมการดูแลเสถียรภาพทางการเงิน ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ และธนาคารโลก

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen