“อาร์เมเนีย-อาเซอร์ไบจาน” ตกลงหยุดยิงหลังเจรจาที่กรุงมอสโกตั้งแต่ 10 ตุลาคมและวางแผนที่จะเริ่มต้นการเจรจาอย่างมีนัยสำคัญ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า  “เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งรัสเซีย กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า หลังจากการเจรจาที่กรุงมอสโกประมาณ 10 ชั่วโมงทางตัวแทนของอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานได้ตกลงที่จะหยุดยิงและเริ่มการเจรจาอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 10 ตุลาคมเป็นต้นไป

ทั้งนี้ข้อขัดแย้งกรณีข้อพิพาทดินแดน นากอร์โน – คาราบัค หลังจากทั้งสองฝ่ายสู้รบกันอย่างหนักเป็นเวลาเกือบสองสัปดาห์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดถึงถึงการเจรจาแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอาร์เมเนียและรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอาเซอร์ไบจานไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว

มีรายงานด้วยว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็น การหยุดยิงด้านมนุษยธรรม และต้องรอดูว่าจะมีการหยุดยิงตามข้อตกลงหรือไม่หากเป็นการแลกเปลี่ยนนักโทษและหากทั้งสองฝ่ายเต็มใจที่จะกลับไปที่โต๊ะเจรจาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งที่ยาวนานหลายทศวรรษนี้

นักการทูตระดับสูงของรัสเซียกล่าวว่า ทางสภากาชาดจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการดำเนินการด้านมนุษยธรรม

มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 300 คนในการต่อสู้ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กันยายนและเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในดินแดนนับตั้งแต่การปะทะกันในปี 2559 ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน

การสู้รบที่เกิดขึ้นใหม่ในความขัดแย้งเก่าแก่หลายทศวรรษทำให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดสงครามที่กว้างขึ้นในตุรกีซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของอาเซอร์ไบจานและรัสเซียซึ่งมีสนธิสัญญาป้องกันกับอาร์เมเนีย

ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศดินแดน นากอร์โน – คาราบัค ได้รับการยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาเซอร์ไบจาน แต่กลุ่มชาติพันธุ์อาร์เมเนียซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ปฏิเสธการปกครองของอาเซอร์ไบจันและดำเนินกิจการของตนเองโดยได้รับการสนับสนุนจากอาร์เมเนียนับตั้งแต่เกิดสงครามทำลายล้างในปี 2533 หลังจากที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย

มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30,000 คนและหลายแสนคนถูกบังคับให้ออกจากบ้านก่อนที่จะมีการตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในปี 2537