- กดดันธปท.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
- เตรียมหารือเอกชนปรับขึ้นค่าจ้างช่วงปลายปี
- เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า ปัจจัยที่เข้ามากระทบเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยนอกจากเรื่องของสถานการณ์โควิดแล้ว ยังมีเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่มีสาเหตุหลักจากสงครามยูเครน ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ไม่น่าจะอยู่ในระดับต่ำเหมือนหลายปีก่อน
ส่วนปัจจัยเงินเฟ้อดังกล่าวจะกดดันในเรื่องของการพิจารณาดอกเบี้ยนโยบายเพื่อดูแล เพราะต่างประเทศเอง โดยเฉพาะเฟดก็ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดการไหลออกของเงินและการบริโภคที่ร้อนแรง ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงตั้งแต่ไตรมาสามปีก่อนถึงไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวได้สูงถึง 6-7% แต่หลังจากเจอโอมิครอนบวกกับสงครามยูเครน อัตราการขยายตัวก็ปรับลดลง
อย่างไรก็ตามเมื่ออัตราเงินเฟ้อของไทยปรับเพิ่ม การดำเนินนโยบายการเงินและการคลังก็ต้องดูแลให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนมากนัก ซึ่งแน่นอนก็จะมีการดูแลเรื่องราคาพลังงาน แต่ถามว่า เราจะตรึงราคาได้นานแค่ไหน ขณะนี้ เราก็จะดูแลให้ตรงกลุ่มเป้าหมายจากเดิมที่ดูแลแบบปูพรหม เช่น เรื่องNGV ก็จะดูแลในภาคขนส่ง ซึ่งก็คือ แท็กซี่ ส่วนก๊าซหุงต้มก็ต้องปล่อยให้ราคาขยับขึ้นบ้าง ด้านดีเซลรัฐบาลก็ช่วยอยู่ แต่ราคาก็ยังสูง
“การบริหารในภาวะเงินเฟ้อ ในภาวะปกติแม้เงินเฟ้อจะสูงขึ้นแต่ ภาคเอกชนก็อาจจะยังไม่ได้ปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตาม แต่ในช่วงนี้ระดับเงินเฟ้อขึ้นสูง ซึ่งอาจอยู่ในภาวะที่ Shock ในช่วงนี้ แต่หากภาคเอกชนบริหารต้นทุนแบบกระจาย ก็อาจไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นราค้าสินค้า ตามระดับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 6 -7% อย่างในช่วงนี้ก็ได้”
แม้ว่าขณะนี้ระดับเงินเฟ้อในประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่สูง แต่ระดับเงินเฟ้อของไทย ยังอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีระดับเงินเฟ้อที่ต่ำ ทั้งนี้กรอบเงินเฟ้อที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน และกระทรวงการคลัง ได้ตกลงร่วมกันอยู่ที่ 1 -3% ซึ่งถือว่ามีความยืดฝดหยุ่นที่เพียงพอสำหรับการพิจารณาอัตราดอกเบี้ย
ส่วนมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ซึ่งจะสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เราต้องพิจารณาเรื่องของผลกระทบที่จะมีต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ซึ่งต้องประเมินอีกครั้ง แม้ขณะนี้ ในรอบ 5 เดือนแรกรัฐบาลจะจัดเก็บรายได้เกินเป้าหมายก็ตาม นอกจากนี้ ยังต้องติดตามเรื่องราคาน้ำมันประกอบด้วย
“เราก็ประเมินแล้วว่า ราคาน้ำมันก็น่าจะอยู่ในระดับสูงต่อ แต่ถ้าเรามีรายได้ส่วนเกิน เราก็จะเอาไปช่วยในการลดภาษี ส่วนเรื่องค่าการกลั่นนั้น ทางสภาอุตสาหกรรมได้ทำหนังสือมาถึงกระทรวงการคลังแล้วก็อยู่ระหว่างการเจรจา
ในส่วนเรื่องของค่าจ้างนั้น ในช่วงปลายปีจะมีการหารือกับเอกชนเพื่อปรับเพิ่มให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ
ส่วนภาคการท่องเที่ยวเริ่มมีความคึกคัก โดยรัฐบาลก็ได้ออกมาตรการมาสนับสนุน ทั้งการลดหย่อนภาษีจากการจัดสัมมนาหรือเราเที่ยวด้วยกัน แต่มาตรการดังกล่าวในที่สุดแล้วก็ต้องทยอยลดลง เพราะการบริโภคจะเริ่มกลับมา ส่วนความช่วยเหลือผู้ประกอบการนั้น ในเรื่องของสภาพคล่องเราก็มีนโยบายให้แบงก์รัฐช่วยสนับสนุนเต็มที่
ทั้งนี้ในช่วงสองปีที่ผ่านมาการดำเนินมาตรการการเงินและมาตรการการคลัง มีความสอดประสานกัน ซึ่งไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียวที่ทำเช่นนี้ แต่ทั้งโลกก็ดำเนินโดยใช้มาตรการการเงินและการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจาก รายได้ของประชาชนหายไป จากผลกระทบโควิด
โดยวงเงินกู้ตาม พรก.กู้เงินฉบับพิเศษ รวม 2 ฉบับ เป็นวงเงิน 1.5 ล้านล้านบาทนั้น 60 -70% นำไปใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และส่วนที่เหลือใช้ไปกับด้านการสาธารณสุข การแพทย,มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของประชาขน และมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งการใช้จ่ายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอาจยังไม่มาก เนื่องจากเราเจอกับการแพร่ระบาดของโควิดหลายรอบ ทำให้ต้องนำเงินมาช่วยเยียวยาประชาชน
เขากล่าวว่า ทั้งธนาคารโลก และ IMF บอกให้รัฐบาลของทุกประเทศในโลกจะต้องออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยไม่ต้องห่วงในเรื่องหนี้สาธารณะ ซึ่งระดับหนี้สาธารณะของแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถในการชำระหนี้ของแต่ละประเทศ ซึ่งบางประเทศระดับหนี้สาธารณะขึ้นไปกว่า 100 % ของจีดีพี