

- พร้อมปรับแผนรับมือ ปรับทุกรพ. รับผู้ป่วยเกณฑ์เหลือง-แดง
- ลั่น กทม.เปิดศูนย์พักคอยไปแล้ว 65 แห่ง พร้อมเดินหน้าเพิ่มศูนย์พักคอยชุมชน
- ด้านการจัดหาวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม-โมเดอร์นา อยู่ในขั้นตอนการจองซื้อ
- เผย กทม.พร้อมซื้อให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปฉีดให้กลุ่มเปราะบาง
วันนี้ (6 ส.ค.64) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร จัดงานแถลงข่าว Online โดยกล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมีการร่วมแถลงข่าวกับ นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ และพญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย
ทั้งนี้ ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ของกรุงเทพมหานครในเดือนส.ค.นี้ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวานนี้ (5 ส.ค.) 3,000 กว่าราย และวันนี้ 4,000 กว่าราย โดยในช่วงเดือน ส.ค.นี้ มีการคาดการณ์ผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากซึ่งกรุงเทพมหานครดำเนินการ 3 เรื่อง คือ 1.ลดอัตราการเคลื่อนไหวของคนตามมาตรการที่ศบค.ออกมา
2.ปรับการรองรับสถานการณ์ เพิ่มศักยภาพของสถานพยาบาล ทุกโรงพยาบาลให้รับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงทั้งหมดส่วนผู้ป่วยสีเขียวให้ทำ Home Isolation : HI หรือนำเข้าศูนย์แยกกักในชุมชน (Community Isolation : CI) หรือศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ
3.เร่งฉีดวัคซีน โดยในเดือนสิงหาคมได้รับจัดสรรวัคซีนมาฉีดใน 25 จุดฉีด ซึ่งจะเริ่มฉีดสัปดาห์แรกในวันที่ 7-10 ส.ค. ฉีดได้วันละ 40,000 กว่า รวมถึงเร่งฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและหญิงตั้งครรภ์ ในจุดฉีด 25 จุดด้วย
โดยขณะนี้กรุงเทพมหานครได้รับความร่วมมือจากไทยพีบีเอส เป็นศูนย์ประสานงานฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ โดยรับโทรศัพท์และลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับผู้สูงอายุ ผ่านทางโทรศัพท์ 40 คู่สาย เบอร์ 02-790-2855 รวมถึงจุดฉีดวัคซีน SCB จะให้บริการวอล์คอินซึ่งจะประกาศรายละเอียดให้ทราบวัน-เวลา และจำนวนให้บริการอีกครั้งรวมถึงหญิงตั้งครรภ์สามารถวอล์คอินได้ 11 จุดฉีด ติดตามข้อมูลได้ที่เพจไทยร่วมใจ
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวต่อว่า ในส่วนของศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อของกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันมี 65 แห่ง รับได้ 8,625 เตียงและปรับเป็น ศูนย์พักคอยกึ่งโรงพยาบาลสนาม (Community Isolation plus : CI plus) จำนวน 7 แห่ง รับได้ 1,036 เตียง นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มศูนย์พักคอยชุมชน โดยนำร่องศูนย์พักคอยชุมชนขนาดเล็ก 6-50 เตียง (Semi Community Isolation) จำนวน 19 แห่ง รับได้ 462 เตียง และศูนย์พักคอยในชุมชนขนาดกางดูแลโดยชุมนหรือผู้นำศาสนา เริ่มที่เขตกรุงธนใต้ 2 แห่ง รับได้ 660 เตียง ทั้งนี้ให้ทุกเขตดูความพร้อมจัดตั้งเพิ่ม สำหรับการลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกโดยทีมCCRT ใน 2-3 สัปดาห์ ได้ลงไปแล้ว 2,271 ชุมชน มีผู้รับบริการรวม 118,000 กว่าราย และจะเจาะไปในพื้นที่บ้านประชาชนทั่วไปด้วย
ทั้งนี้ ระบบ HI มีเบอร์ติดต่อกลาง 1330 โดยทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีความเป็นห่วงผู้ป่วยบางคนที่ตกหล่นไม่ได้รับการดูแลได้ทันท่วงที จึงได้จัดตั้งเบอร์สายด่วนโควิด 50 เขต ใช้กลไกของเขตเข้าไปดูแลในเบื้องต้น มีผู้ติดต่อวันละ 50-80 ราย/เขต
“สำหรับวัคซีนโควิด-19 ที่ผ่านมาการจัดสรรเป็นยอดรวม ที่เป็นปัญหา คือใน 25 จุดฉีดนอกโรงพยาบาล ที่ประชุมศบค.จึงได้สั่งให้แยกยอด สำหรับ 25 จุดฉีดนอกโรงพยาบาล และโรงพยาบาลระบบหมอพร้อมรวมถึงพื้นที่เสี่ยงในชุมชน ในเดือนสิงหาคมนี้ ได้รับจัดสรรวัคซีน 25 จุดฉีดนอกโรงพยาบาล จำนวน 175,000 โดส ทยอยจัดส่งทุกสัปดาห์โดยสัปดาห์ที่ 1-3 จะได้รับ 175,000 โดส และสัปดาห์ที่ 4 ได้ 225,000 โดส ส่วนอีก 500,000 โดส แบ่งเป็นระบบหมอพร้อมฉีดในโรงพยาบาล 132 แห่ง 174,000 โดส , เข็มสอง 57,000 โดส และอีก 269,000 โดสใช้ในการป้องกันการระบาด โดยทีมCCRT ฉีดให้กลุ่ม 608 และในพื้นที่เสี่ยง” ร.ต.อ.พงศกร กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนวัคซีนไซเฟอร์จะฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์โดยจะต้องเน่งฉีดให้เร็วใน 1 เดือน เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องอุณหภูมิการเก็บรักษา ซึ่งสำนักอนามัยได้ประชุมโรงพยาบาลทุกแห่งย้ำไม่ให้เอาคนนอกกลุ่มมาฉีดวัคซีนเด็ดขาด มีการกำหนดบุคลากรด่านหน้าที่จะฉีดก่อนหลัง ซึ่งทางสำนักการแพทย์รายงานในส่วนของ 11 โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร ได้รับวัคซีนแล้ว 7,660 โดส เริ่มฉีดทันที โดยที่สำรวจมีบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาล กทม.รวม 10,000 คน
“ในด้านการจัดหาวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม รวมถึงวัคซีนโมเดอร์นา อยู่ในขั้นตอนการจองซื้อวัคซีนกับหน่วยงาน ซึ่งกรุงเทพมหานครพร้อมซื้อวัคซีนให้ได้มากที่สุดตามที่สามารถจัดซื้อได้ โดยวัคซีนซิโนฟาร์ม น่าจะเสร็จได้ก่อนในเร็วๆนี้ และจะนำไปฉีดให้กลุ่มเปราะบางต่อไป” ร.ต.อ.พงศกร กล่าว