

- แม้มีสัญญาณฟื้นตัวในไตรมาส 3 แต่ไม่มีผลฉุดพ้นวิกฤติ
- ชี้รัสเซีย โคลัมเบีย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ส่งออกร่วงหนัก
- แต่จีนกลับมาฟื้นอย่างแข็งแกร่งขณะที่นำเข้าเพิ่มขึ้นตาม
ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ การค้าโลกล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า โดยระบุว่า มูลค่าการค้าโลกปี 63 หดตัว 7-9% แม้มีสัญญาณการฟื้นตัวในไตรมาส 3 สาเหตุหลักมาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในทั่วโลก
สำหรับมูลค่าการค้าโลกในช่วงไตรมาส 3 ปี 63 ติดลบ 4.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 62 ถือว่าปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 ปี 63 ที่ติดลบไปถึง 19% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 62 แต่การขยายตัวดังกล่าว ยังไม่เพียงพอที่จะฉุดให้การค้าโลกพ้นวิกฤติได้
โดยประเทศที่มีมูลค่าการส่งออกไตรมาส 3 ปีนี้เทียบกับไตรมาส 3 ปี 62 ติดลบมากที่สุด คือ รัสเซีย ลบ 19% ตามด้วยโคลัมเบีย ลบ 13.3% ญี่ปุ่น ลบ 11.6% สหรัฐฯ ลบ 11.5% ออสเตรเลีย ลบ 10.6% เปรู ลบ 10.2% สหภาพยุโรป ลบ9.9% สหราชอาณาจักร ลบ 9.7% ส่วนไทย ลบ 5.1% ฮ่องกง ติดลบน้อยสุดที่ 0.2% แต่มี 4 ประเทศที่มูลค่าส่งออกขยายตัวเป็นบวก คือ เวียดนาม บวกมากสุดที่ 10.9% ตามด้วย จีน 8.8% ไต้หวัน 6.4% และตุรกี 0.7%
สำหรับจีน การค้าฟื้นตัวอย่างเด่นชัด โดยในไตรมาส 3 การส่งออกกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหลังจากการลดลงอย่างมากในไตรมาส 2 จากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การส่งออกของจีนขยายตัวเฉลี่ยเกือบ 10% ในแต่ละปี ขณะที่การนำเข้า กลับมาฟื้นตัวเช่นกัน
ส่วนในไตรมาส 4 ปีนี้ อังค์ถัด ได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า มูลค่าการค้าโลกไตรมาส 4 จะขยายตัวได้ต่ำกว่า 3% แต่การคาดการณ์ดังกล่าว ยังไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในช่วงนี้
นอกจากนี้ ในรายงานยังระบุอีกว่า ไม่มีภูมิภาคใดของโลกที่มูลค่าการส่งออกไม่ลดลง โดยภูมิภาคเอเชียใต้ และเอเชียตะวันตก มูลค่าลดลงมากที่สุดที่ 41% ส่วนการนำเข้าก็ลดลงมากเช่นกันที่ 35% ขณะที่ กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาการส่งออกขยายตัวดีกว่าประเทศพัฒนาแล้ว โดยไตรมาส 3 ปีนี้ การส่งออกโดยรวมของประเทศกำลังพัฒนา ติดลบ6% ดีขึ้นจากไตรมาส 2 ปีนี้ที่ติดเฉลี่ย 18% ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วติดลบ 14% ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ติดลบ22%
สำหรับการส่งออกของโลกเมื่อแยกเป็นกลุ่มสินค้านั้น ไตรมาส 3 ปีนี้ กลุ่มพลังงาน มีการส่งออกลดลงมากที่สุด ที่35% ตามด้วยยานยนต์ ลด 18% เคมีภัณฑ์ ลด 9% เครื่องจักรและส่วนประกอบ ลด 5% เป็นต้น ขณะที่สินค้าที่การส่งออกเพิ่ม ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน หรือการกักตัวที่บ้าน ได้แก่ อุปกรณ์ที่ใช้ในสำนักงาน เพิ่ม 14% อุปกรณ์สื่อสาร เพิ่ม 8% สิ่งทอและเสื้อผ้า เพิ่ม 6% เกษตร-อาหาร เพิ่ม 1% เครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่ม 1% บ้าน โดยทุกกลุ่มสินค้าการส่งอกไตรมาส 3 ขยายตัวเพิ่มจากไตรมาส 2
ขณะเดียวกัน ยังรายงานถึงการส่งออกสินค้าและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อป้องกันโควิด-19 โดยระบุว่า ในช่งเดืวอนม.ค.-พ.ค.63 การส่งออกสินค้าทางการแพทย์ เช่น อุปกรณ์ป้องกันโรคส่วนบุคคล สารและน้ำยาฆ่าเชื้อ ชุดตรวจวินิจฉัย เครื่องช่วยหายใจ เป็นต้น จากจีนไปสหภาพยุโรป เพิ่มขึ้นจาก 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อเดือน เป็น45,000 ล้านเหรียญฯ ส่วนการส่งออกเฉลี่ยของสินค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้นกว่า 50% นับตั้งแต่เดือนเม.ย.63 เป็นต้นมา