- ส่งเสริมดิจิทัลสตาร์ทอัพในประเทศไทย
- สร้างโอกาสใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล
- ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือ Amazon.com, Inc. ได้แถลงข่าวประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ ด้วยการเปิดตัว Region ในประเทศไทย หรือ AWS Asia Pacific (Bangkok) ด้วยงบประมาณมากกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือ 1.9 แสนล้านบาท) ในระยะเวลา 15 ปี โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และนายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)หรือดีป้า ร่วมงานแถลงข่าวด้วย
สำหรับ AWS Asia Pacific (Bangkok) จะเป็น Data Center ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานที่ต้องการเก็บข้อมูลไว้ในประเทศหรือสร้างข้อกําหนด ข้อมูลสามารถจัดเก็บข้อมูลในประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยพร้อมให้เวลาแฝงที่ตํ่าทั่วประเทศ รองรับผู้ใช้งาน ตั้งแต่สตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และองค์กรไม่แสวงผลกําไรที่จะได้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงจากคลาวด์ชั้นนําของโลก
ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า การเปิดตัว Region ในประเทศไทยของ AWS ในวันนีทำให้มองเห็นการต่อยอดการทำงานเดิม รวมถึงการสร้างโอกาสใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลในไทย พร้อมกล่าวว่า depa และ AWS เป็นพันธมิตรในการดำเนินงานด้านดิจิทัลในมิติต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่องตามภารกิจของ depa ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ ภายใต้ 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ ประกอบด้วย
ด้านการพัฒนากำลังคนดิจิทัล โดย depa ได้ร่วมกับ AWS ในการยกระดับทักษะดิจิทัลของคนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มคมที่ขาดทักษะดิจิทัลขั้นสูง อย่างเช่น Cloud Innovation หรีอ Artificial Intelligence โดย depa และ AWS ได้ร่วมมือ Upskill หรือ Reskill คนไทยที่มีเป้าหมายในเพิ่มทักษะตนเองมากกว่า 1,000 รายต่อปี
ด้านการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัลในประเทศไทย โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ดิจิทัลสตาร์ทอัพ และบริการดิจิทัลต่าง ๆ ทั้งนี้ depa ได้เห็นโอกาสจากการที่ AWS มีแผนที่จะนำ Cloud Innovation มาส่งเสริมดิจิทัลสตาร์ทอัพในประเทศไทย ทั้งนี้ ในปัจจุบัน depa ได้ร่วมลงทุนในดิจิทัลสตาร์ทอัพสัญชาติไทยแล้วมากกว่า 150 ราย ประเมินมูลค่าราว 5,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ภาครัฐได้มองถึงอนาคตในการให้ depa สนับสนุนดิจิทัลสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพได้เติบโตสู่ระดับสากลเพิ่มขึ้น ซึ่ง depa กับ AWS ก็จะมีการร่วมมือกันในระยะยาวต่อไป
ด้านการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โดยมุ่งเน้นให้เกิดการประยุกต์ใช้ดิจิทัลในภาคธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย SMEs ที่ต้องปรับตัวให้เท่าทันกับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล นอกจากนี้ depa ได้ดำเนินการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการที่มีความต้องการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการยกระดับธุรกิจให้ทันยุคดิจิทัล และผู้ให้บริการดิจิทัลที่ได้มาตรฐานที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุด ซึ่ง depa และ AWS ได้ร่วมกันทำงานด้านต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านของประเทศไทยในโลกอนาคต
ด้านการขับเคลื่อนให้เกิดการทำงานอย่างทั่วถึง โดยรัฐบาลได้มอบหมาย depa เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะในประเทศไทย ทั้งนี้ เมืองอัจฉริยะถือเป็นอีกโอกาสสำคัญของไทยในการขับเคลื่อนให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการดำรงชีวิต หรือการอยู่อาศัยที่มีความสุขยิ่งขึ้น ซึ่งในการดำเนินงานดังกล่าวต้องมีการใช้ความเข้าใจในการวางโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ มีความละเอียดลงลึกถึงระดับตำบลและอำเภอ ซึ่งถือเป็นภาพการพัฒนาที่ใหญ่ยิ่งของประเทศไทย ทั้งนี้ การพัฒนาเมืองอัจฉริยะไม่ใช่เพียงการใช้เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวแต่เป็นทั้งการกระจายความเจริญ การนำเทคโนโลยีและดิจิทัลโซลูชันมาใช้งานจริงให้เกิดขึ้นอย่างทั่วถึง โดยการดำเนินการดังกล่าวก็มีความจำเป็นที่จะได้รับการส่งเสริมหรือสนับสนุนจาก AWS ที่ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินงานร่วมกับ depa ไปบ้างแล้วในบางพื้นที่
AWS Asia Pacific (Bangkok) จะประกอบด้วย Availability Zone สามแห่ง ซึ่งเพิ่มเติมจาก Availability Zone ของ AWS ที่มีอยู่แล้ว 87 แห่งใน 27 ภูมิภาคทั่วโลก และ AWS ได้ประกาศแผนที่จะสร้าง Availability Zone ทั่วโลกอีก 24 แห่งและ AWS Region อีก 8 แห่งในออสเตรเลีย แคนาดา อินเดีย อิสราเอล นิวซีแลนด์ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงประเทศไทย
