ออสเตรเลียหนัก! ติดเชื้อวันเดียวเกือบ 2 พันคน



  • หลังไวรัสสายพันธุ์ “เดลตา” ครองประเทศ
  • แม้มีมาตรการคุมเข้ม-ล็อกดาวน์ก็ยังไม่ซา
  • เร่งฉีดวัคซีนครบ 2 ให้ได้ 70% ในเดือนต.ค.

นางแกลดิส เบรีจิเกลียน ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย แถลงข่าวที่นครซิดนีย์ เมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ว่า วันนี้ (10 ก.ย.) พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงถึง 1,900 รายเป็นครั้งแรก จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ที่ยังคงพบอยู่มากในเมืองซิดนีย์และเมลเบิร์น แม้ขณะนี้ยังอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์มาตั้งแต่เดือนก.ค.64 

“เราได้คาดการณ์ถึงแนวโน้มเช่นนี้มาก่อนแล้ว และการแถลงข่าวสถานการณ์โควิดประจำวัน จะยกเลิกตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 ก.ย.นี้เป็นต้นไป โดยจะรายงานสถานการณ์ทางออนไลน์แทน” 

รายงานข่าวระบุว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของประเทศ พบผู้ติดเชื้อเกือบ 2,000 คน ทำลายสถิติเมื่อสัปดาห์ก่อนซึ่งอยู่ที่ 1,533 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 9 ราย โดยออสเตรเลียกำลังเผชิญกับการระบาดรอบที่ 3 โดยมีไวรัสสายพันธุ์เดลตาเป็นสายพันธุ์หลัก ทำให้รัฐบาลต้องเปลี่ยนกลยุทธ์จากการลดจำนวนผู้ติดเชื้อให้เป็นศูนย์ (Covid-zero strategy) มาเป็นการมุ่งสกัดการแพร่ระบาดแทน และรัฐบาลตั้งเป้าผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด เมื่อประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 โดสมากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม แม้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงเพิ่มขึ้น รัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ประกาศแผนคลายล็อกดาวน์ ที่ใช้มาตั้งแต่เดือนก.ค.64 ว่า ธุรกิจในเมืองซิดนีย์อาจกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้ง เมื่อประชากรวัยผู้ใหญ่ในรัฐ ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วถึง 70% ซึ่งคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายในเดือนต.ค.นี้ ส่วนในปัจจุบัน ประชาชนอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว 76% และฉีดครบ 2 โดสแล้ว 44%