ออมเงินกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

คุณพี่มนุษย์เดือนชนเดือน พนักงานออฟฟิศท่านหนึ่ง  ที่ปรับระบบชีวิตการเงินของตัวเองใหม่ จนสามารถปลดแอกจากชีวิตหนี้ที่มืดมน เงินเดือนหมื่นกว่า แต่เป็นหนี้เกือบครึ่งล้าน จากการใช้จ่ายเงินที่ไม่มีระเบียบแบบแผน มีเงินเข้ากระเป๋าเท่าไร ก็ใช้จ่ายจนหมดเกลี้ยง ไม่พอก็หยิบยืม  รูดบัตรเงินสด  กู้เงินนอกระบบ เงินเก็บเงินออมไม่เคยมี  เงินลงทุนไม่ต้องพูดถึง

เมื่อชีวิตพลิกผัน ได้เข้าสู่โครงการ “Happy Money Happy Retirement” ที่บริษัทส่งพนักงานเข้าร่วมโครงการกับตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้กลับมาจัดระเบียบการใช้จ่ายของตัวเองใหม่หมด  จดบันทึกรายรับรายจ่าย อุดรูรั่ว ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก ก็มีเงินเหลือมาจ่ายหนี้  เมื่อรายรับไม่พอจ่าย ก็ต้องหารายได้เพิ่ม 

สุดท้ายหมดหนี้เริ่มออมเงินโดยเริ่มจากเงินออมต้นทางคือเงินออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพซึ่งถือเป็นเงินออมก้อนที่สำคัญที่สุดเพราะเป็นเงินออมระยะยาวเพื่อเก็บไว้ใช้หลังเกษียณ  

ผู้ที่รู้ตัวเองดีว่าถ้าให้เก็บเงินเองจะเก็บไม่อยู่แน่นอน  ให้ใช้วิธีหักดิบยอมให้หักเงินจากเงินเดือนมาสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในอัตราสูงสุดไปเลยซึ่งหลายบริษัทให้สะสมได้สูงสุด 15%ของเงินเดือน 

ข้อดีของเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นอกจากเงินออมสะสมของเราที่ใส่เข้าไปทุกเดือนแล้ว ยังมีเงินที่นายจ้างจ่ายสมทบให้เราเพิ่มไปอีก ขึ้นกับข้อกำหนดของแต่ละบริษัทว่าจะสมทบให้เท่าไร ตั้งแต่ 2-15%  นั่นหมายถึงเงินที่นายจ้างช่วยออมเพิ่มให้เรานั่นเอง!! 

แถมเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเรายังสามารถนำไปใช้หักลดหย่อนภาษีเงินได้ที่เราต้องจ่ายทุกปีได้อีกด้วย 

ที่สำคัญยังมีโอกาสได้ผลตอบแทนจากการลงทุนเพราะเงินสะสมและเงินสมทบของนายจ้างจะถูกนำไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆโดยมีผู้จัดการกองทุนที่เป็นมืออาชีพบริหารเงินให้ 

ผลตอบแทนจากการลงทุนแต่ละปีจะมากหรือน้อย  ขึ้นกับหลายปัจจัยโดยเฉพาะขึ้นกับระยะเวลาและสินทรัพย์ที่ไปลงทุนซึ่งมีทั้งเงินฝากหุ้นหุ้นกู้พันธบัตรรัฐบาลทองคำกองทุนรวมและกองรีทต่างๆที่มีทั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์กองทุนโครงสร้างพื้นฐานมากมาย

ซึ่งปัจจุบัน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีรูปแบบให้ลูกจ้างเลือกแผนลงทุน (Employee’s Choice)ได้ เช่น หากยังอายุไม่มาก  แนะนำให้เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้มากขึ้น เช่น ลงทุนในหุ้น เพราะจากสถิติพบว่าการลงทุนระยะยาวในหุ้นพื้นฐานดี มักให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่สูงกว่าได้

เมื่ออายุมากขึ้นต้องลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลง เพื่อไปลงทุนมากขึ้นในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า แต่อาจได้ผลตอบแทนที่ลดลง และหากใกล้เกษียณก็สามารถขอเลือกแผนลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยงเลย เพื่อปกป้องเงินต้นในโค้งสุดท้ายของการลงทุน 

“คุณนายพารวย”อยากแนะนำให้พวกเราเพิ่มพูนความรู้และเทคนิคการออมเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแบบแซ่บๆ ได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ www.set.or.th และเลือกไปที่ เมนู“ความรู้การลงทุน”

แล้วจะรู้ว่าการเลือกแผนลงทุนที่สอดคล้องกับอายุเป้าหมายผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้จะช่วยสร้างผลตอบแทนให้กับเงินออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้อย่างมหาศาล!!

ขอบคุณที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ