- สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 2.9 ล้านล้านบาท
- พร้อมคุมหนี้ NPL ปีนี้ให้ไม่เกิน 3%
- เดินหน้าขยายฐานลูกค้าเป็น 41% ของประชากร
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า แผนดำเนินงานของธนาคารในปี 2563 ได้ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อเพิ่ม550,000 ล้านบาท หรือเติบโต 4-5% ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)จะควบคุมไม่ให้เกิน 3% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.72% พร้อมตั้งเป้าสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 2.9 ล้านล้านบาท เติบโต 3.5% จากปีที่ผ่านมา ขณะที่เงินฝากตั้งเป้าเพิ่มสุทธิกว่า 75,000 ล้านบาท หรือเติบโต 3% รวมทั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 41% ของประชากรทั้งประเทศ
ทั้งนี้ธนาคารจะใช้แนวคิด GSB SUSTAINABLE BANKING เป็นกลไกผลักดัน 3 ยุทธศาสตร์หลัก เพื่อมุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน ประกอบด้วยเทรนดิชั่นนอล แบงก์กิ้ง (Traditional Banking) โดยธนาคารจะเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า ปรับเปลี่ยนการให้บริการแบบเดิมไปสู่การให้บริการแบบใหม่ ผ่านบริการ ”QUEUE Application” ซึ่งจะออกไปให้บริการตามที่ลูกค้าทำนัดหมายผ่านแอปพลิเคชัน โดยสามรารถเลือกได้ว่าจะให้บริการทางไหน อาทิ รถยนต์บริการเคลื่อนที่ เรือออมสิน หรือให้พนักงานออกไปให้บริการยังจุดที่ลูกค้าสะดวก เป็นต้น
นอกจากนี้ ได้เตรียมพัฒนาศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (GSB Contact Center)เพื่อยกระดับการให้บริการและตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า โดยเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมทุกความคิดเห็น ข้อร้องเรียน และเสนอแนะของลูกค้าจากทุกรูปแบบ ขณะเดียวกัน ธนาคารฯ ยังมีความพร้อมที่จะเป็นองค์กรหลักที่ให้บริการในรูปแบบเอทีเอ็ม ไวท์ เลเบล ซึ่งเป็นตู้เอทีเอ็มที่จะรับบัตรของทุกธนาคาร โดยปีนี้ธนาคารได้เตรียมติดตั้งเอทีเอ็ม ใหม่กว่า 5,000เครื่อง เพื่อทดแทนเครื่องเดิมและเพิ่มเติมในจุดที่มีศักยภาพครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ
ด้านโซเชียล ดีเวล็อปเม้นต์ แบงก์กิ้ง(Social Development Banking)ประกอบด้วย การสร้างความรู้ อาชีพ สร้างตลาดรายได้ และสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อลดความความเหลื่อมล้ำ โดยปี 2563 ธนาคารจะปรับเปลี่ยนบทบาทเป็นศูนย์พัฒนาสู่ความยั่งยืนของสถาบันการเงินที่จะมีสาขาดูแลด้านสังคมโดยเฉพาะ รวมถึงมีบริการศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน ศูนย์แก้ไขหนี้นอกระบบ ศูนย์แก้ไขหนี้นอกระบบ ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวในท้องถิ่น เป็นต้น ซึ่งปี 2563 จะเปิดให้บริการครบ 100 สาขา ครอบคลุม 77จังหวัดทั่วประเทศ
ส่วนด้าน ดิจิตอล แบงก์กิ้ง (Digital Banking) มีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการและช่องทางต่างๆ ให้มีบริการที่รวดเร็วและทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ผ่านการพัฒนาแอปพลิเคชั่น Mymo ได้แก่ บริการซื้อประกันภัยรถยนต์/ที่พักอาศัย/ประกันชีวิต ผ่าน i-Insurance บริการบัญชีเพื่อการออม ด้วย I-Saving เป็นต้น โดยปีนี้มีเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการ MyMo จาก 8 ล้านรายในปี 2562 เป็น 13 ล้านราย และปี 2564 เป็น 18 ล้านราย
