อย่ารีบปฏิเสธ! “องอาจ” เอ่ยวอนทุกฝ่ายอย่าเมินหน้าหนี จัดตั้งคณะกรรมการเจรจาหาทางออกให้ประเทศ



  • เห็นพ้องมอบหมายให้สถาบันพระปกเกล้า ไปศึกษาหาโครงสร้างและรูปแบบ
  • ควรเร่งพิจารณาหาข้อสรุปส่งให้ประธานรัฐสภาโดยเร็ว
  • ลั่นเราต่างเป็นคนไทยเหมือนกัน ต้องอยู่ในประเทศนี้ร่วมกันต่อไป

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์หาทางออกให้ประเทศว่า นับเป็นเรื่องดีที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มอบหมายให้สถาบันพระปกเกล้าไปศึกษาหาโครงสร้าง และรูปแบบของคณะกรรมการ ว่าควรมีหน้าตาอย่างไร มีภาระหน้าที่มากน้อยแค่ไหนเพราะสถาบันพระปกเกล้าเป็นองค์กรทางวิชาการที่มีองค์ความรู้ และบุคลากรที่หลากหลายซึ่งทำงานเชิงวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เศรษฐกิจ สังคมอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ทำงานเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสันติวิถี และการแก้ไขความขัดแย้งมาโดยตลอด

“อยากฝากสถาบันพระปกเกล้าให้เร่งพิจารณาหาข้อสรุปส่งให้ประธานรัฐสภา เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปให้ทันกับสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เร็วและแรงมากขึ้นทุกวัน” นายองอาจ กล่าว

ทั้งนี้ในส่วนที่มีบางฝ่ายวิตกกังวลว่า การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหาทางออกให้ประเทศจะเป็นการซื้อเวลาของฝ่ายบริหารนั้น ก็เป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้ว่า อาจจะมีการมองแบบนั้นได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้เสนอโดยรัฐบาล หรือคณะรัฐมนตรี จึงไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลมาซื้อเวลาแต่อย่างใด แต่เรื่องการตั้งคณะกรรมการหาทางออกให้ประเทศครั้งนี้ เป็นข้อเสนอของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่เสนอในที่ประชุมรัฐสภา เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการช่วยกันหาทางออกให้ประเทศร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 

โดยข้อเสนอการตั้งคณะกรรมการ 7 ฝ่ายของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นข้อเสนอบนพื้นฐานของความตั้งใจจริงที่อยากจะสร้างพื้นที่ มีเวทีที่ฝ่ายต่างๆ ได้มานั่งพูดคุยกันถึงปัญหา ข้อเรียกร้อง ข้อเสนอต่างๆ เพื่อหาทางออกร่วมกัน การมีเวทีให้พูดคุยกันน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าไม่มีเวทีที่จะพูดคุยกัน การปล่อยให้แต่ละฝ่ายต่างคนต่างพูดโดยไม่มีโอกาสหันหน้ามาพูดคุยกัน ยิ่งจะทำให้ช่องว่างของการสร้างความไม่เข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ

“ผมอยากวิงวอนทุกฝ่ายอย่ารีบปฏิเสธเข้าร่วมเวทีพูดคุยกันเพื่อหาทางออกให้ประเทศ เพราะเราต่างเป็นคนไทยเหมือนกัน เราต้องอยู่ในประเทศนี้ร่วมกันต่อไป ถึงแม้เราจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน เมื่อมีปัญหาขัดแย้งกันจึงควรหันหน้าเจรจาพูดคุยกัน เพื่อหาจุดสมดุลที่เห็นพ้องต้องกัน เชื่อมั่นว่าการมีพื้นที่ มีเวทีให้พูดคุยกัน จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้บ้างไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน อีกทั้งเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ในที่สุด” นายองอาจ กล่าว