
- เดือนส.ค.64 รับกลุ่ม 18 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีน
- เริ่มขนผู้ป่วยโควิดทางรถไฟกลับภูมิลำเนา
วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 ที่ สถานีรถไฟรังสิต จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า วันนี้จะเป็นการเดินรถไฟขบวนแรกจะนำผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 135 รายจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) และปริมณฑล กลับภูมิลำเนาด้วยเส้นทางการเดินรถนครราชสีมา-อุบลราธานี ซึ่งจะไล่ไปตามเส้นทางของการรถไฟไปยังเส้นทางจังหวัดในภาคอีสานใต้ตั้งแต่จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ ไม่แวะระหว่างทาง อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมงานกระทรวงสาธารณสุข มีแพทย์ร่วมเดินทาง 10 คนแบ่งเป็น 2 ทีม เมื่อไปถึงแต่ละสถานีปลายทางจะมีรถพยาบาลพร้อมด้วยคณะแพทย์ พยาบาลในเครือข่ายมารับ ดังนั้น ไม่ต้องกังวล เพราะเรามีระบบดูแลผู้ป่วยตั้งแต่แรกรับจากที่พัก มาจนถึงปลายทางก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยรับจากสถานีรถไฟไปสู่สถานพยาบาลในพื้นที่ปลายทาง มั่นใจว่าเป็นระบบปิด(Seal route)
“ก่อนจะนำผู้ป่วยไปส่งถึงปลายทาง ก็จะมีรายชื่อ มีรถพยาบาล มีเตียงเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว เป็นการทำงานแบบบูรณาการกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข โดยมีระบบรองรับไว้แล้ว เพื่อนำผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา เพื่อไปรักษาพยาบาลได้อย่างปลอดภัย โดยเราพร้อมให้ดูแลประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า หากจำเป็นต้องใช้อากาศยานก็จะประสานกับทางกองทัพ ซึ่งนายกรัฐมนตรีฯ ได้ให้แนวทางชัดเจนว่าถ้ามีระยะทางไกลมากเกินไปมีผู้ป่วยมากให้ประสานกองทัพในการ จัดส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาอย่างถูกที่ภูมิลำเนา ขณะนี้อย่าเพิ่งเหมารวมว่าสถานการณ์ตึงไปทุกพื้นที่เราพยายามใช้เครือข่ายทุกอย่างที่มีแน่นอนว่าในบุคลากรสาธารณสุขภาระงานเต็มมือแต่เราไม่สามารถทอดทิ้งผู้ป่วยได้ ต้องทำสุดความสามารถให้ผู้ป่วยทุกคนได้เข้าถึงมือแพทย์ โดยเฉพาะผู้ป่วยอาการสีเหลือง สีแดง
เมื่อถามถึงประเด็นการยุบศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ นายอนุทิน กล่าวว่า สถานีกลางบางซื่อ เป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยในขณะนี้ก็ยังไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องยุบ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.64 ที่มีการเปิดให้บริการฉีดวัคซีนเพื่อประชาชน กระทรวงสาธารณสุข ก็ดูแลประชาชนฉีดวัคซีนไปมากกว่า 1 ล้านคนแล้ว แล้วกำลังความสามารถ รายการฉีดวัคซีนของเมื่อวันที่ 26 ก.ค.จำนวน 30,000 คน
ส่วนกรณีการวอล์ค-อิน(Walk in) ก็จะเปิดให้เฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีภาวะอ้วน จนถึงวันที่ 31 ก.ค.64 โดยไม่จำกัดจำนวน ทั้งนี้ ระยะถัดไปตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.64 เป็นต้นไป ต้องเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบ แต่จะมีข้อยกเว้นสำหรับผู้สูงอายุมากกว่า 75 ปีขึ้นไป ที่จะสามารถวอล์ค-อิน ได้อยู่ และจะเปิดให้บริการฉีดวัคซีนในประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปและ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ที่ผ่านการลงทะเบียนเท่านั้น เฉลี่ยวันละ 20,000 คน วันนี้เวลา 14.00 น.นายกรัฐมนตรีเรียกประชุม ผู้ที่เกี่ยวข้อง คงไม่ได้เป็นไปตามที่พาดหัวข่าวที่แรงเหลือเกินว่ายุบสถานีกลาง จะยุบได้อย่างไร ไม่ต้องกังวล
สำหรับการซื้อยา ซื้อวัคซีนเวชภัณฑ์ในสถานการณ์โควิด-19 สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา ส่วนเรียกร้องให้เปิดเผยการฉีดวัคซีนแบบเรียลไทม์ หากเป็นไปตามกฎหมายคนที่จะเปิดเผยได้ก็คืออธิบดีกรมควบคุมโรคจะทำได้หรือไม่ บางกรณีหนึ่งก็บอกว่าเรื่องทางการแพทย์เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ไม่สามารถเปิดเผย ได้ส่วนตัวหากเป็นอะไรเป็นไปตามกฎหมายสามารถทำได้หมด










