

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงทิศทางการเมืองไทย หลังราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าด้วยการใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐ เพื่อกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง พ.ศ.2563 ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเป็นการเข้าโหมดเลือกตั้งว่า มันก็เป็นสิ่งย้ำเตือนว่า การเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว จะได้รู้ว่าอะไรทำได้ และอะไรทำไม่ได้ พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องศึกษาไว้ให้ดี ระยะเวลาก่อนเลือกตั้ง 6-7 เดือน ถือว่ากำลังดี
ทั้งนี้ เมื่อถามต่อถึงกรณีที่ นายปรเมศ โพธารากุล อดีต ส.ส.กาญจนบุรี นักการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ตอบว่า ถ้านโยบายพรรคมันไปตรงกับแนวทางการทำงาน ก็ถือว่าไปกันได้ แต่ส่วนตัวยังไม่ได้คุยกับนายปรเมศ
นกจากนี้ กลุ่มผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีที่ พรรคเพื่อไทยเพิ่งประกาศ 93 ว่าที่ผู้สมัครในภาคอีสาน แล้วพรรคภูมิใจไทยยังจะสู้ในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปพูดถึงคำว่าต่อสู้เลย เราก็นำเสนอนโยบายของเราด้วยรูปแบบการเลือกตั้ง ยิ่งถ้าสมมุติใช้สูตรเลือกตั้งบัญชีรายชื่อหาร 100 พรรคการเมืองต่างๆ ก็ส่งผู้สมัครให้มากที่สุดเท่ากับความสามารถที่มีอยู่เพราะมันก็ชัดเจนว่าต้องได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย ถ้าเราส่งผู้สมัคร ส.ส.เขตที่คุ้นเคยกับพื้นที่โอกาสได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อก็เพิ่มขึ้น ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่พรรคการเมืองทุกพรรคจะส่งผู้สมัครที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้ส.ส.
“การเลือกตั้ง มันอยู่ที่นโยบายความตั้งใจและความใกล้ชิดประชาชน และการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนหลายอย่างประกอบกัน ประมาทปัจจัยใดๆไม่ได้เลยแม้นิดเดียว คนเก่า คนแก่ สอบตกก็มาก” เมื่อถามย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยมั่นใจจะได้ ส.ส.ภาคอีสานมากขึ้นจากเดิมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “น่าจะ ดูหั่งเช้ง (แนวโน้ม) ก็น่าจะดี”
อีกทั้ง เมื่อถามถึงโอกาสที่พรรคภูมิใจไทย จะกลายเป็นพรรคระดับ 100 ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า “ก็อยากได้แต่ได้หรือไม่ไม่รู้ แต่เวลาเราอยากได้อะไรแล้วเราพยายามทำให้ถึงจุดนั้น โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็มี” นายอนุทินกล่าว